หุ้นดิ่งกว่า 30 จุด กูรูแนะหุ้น 5 กลุ่มถูกนโยบายรัฐกดดัน-สหรัฐยืดเยื้อ กดดันแรงซื้อสุดโต่ง

6658

มิติหุ้น-ความเคลื่อนไหวของหุ้นไทยช่วงวันบ่ายวันนี้(4 เม.ย.2561) ปรับตัวลงแรงกว่า 30 จุดที่ 1,731.84 จุด ลดลง 33.4 จุด จากหลายปัจจัยกดดัน ทั้งนโยบายของภาครัฐ(Policy risk)  ส่วนปัจจัยต่างประเทศสงครามการค้า หรือ Trade war ของ 2 ชาติมหาอำนาจสหรัฐอเมริกา กับจีน ล่าสุด จีนแถลงเพิ่มจำนวนสินค้ากว่า 106 ชนิด ปรับเพิ่มภาษีนำเข้าจากสหรัฐนำโดยถั่วเหลือง , รถยนต์, ผลิตภัณฑ์เคมี และ อื่นๆ จากที่สหรัฐฯประกาศขึ้นภาษีนำเข้ากว่า 128 รายการเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา

ด้านนางสาวธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ในขณะนี้ดัชนีหุ้นไทยได้ปรับตัวลดลงเกือบ 30 จุด ซึ่งเป็นผลมาจากสงครามการค้า ระหว่างจีนและสหรัฐ เริ่มเกิดความยืดเยื้อเป็นอย่างมาก ซึ่งในระยะต่อไปนั้น จะมีผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ ของบริษัทจดทะเบียนในประเทศไทย รวมถึงเศรษฐกิจในภาพรวมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อีกทั้งในเชิงเทคนิคแล้ว ดัชนีได้หลุดแนวรับสำคัญ ที่ 1750-1760 จึงทำให้เกิดแรงเทขายอย่างหนัก จากจิตวิทยาเชิงลบของนักลงทุน

ทั้งนี้จากดัชนีที่ปรับตัวลงแรง นำโดยกลุ่ม ธนาคารพาณิชย์ ที่ลดลงมากที่สุด โดยมีปัจจัยกดดันจาก การฟรีค่าธรรมเนียม จึงทำให้รายได้ของธนาคารพาณิชย์ ที่จะได้รับ อาจปรับตัวลดลง อย่างมีนัยสำคัญ ต่อมาเป็นกลุ่ม พลังงาน โดยมีปัจจัยกดดันจากที่ กบง. ทำการปรับโครงสร้างราคาน้ำมันหน้าโรงกลั่น โดยจะมีการประชุมกับผู้ที่เกี่ยวข้องในวันที่ 20 เม.ย.61 นี้ เพื่อหาแนวทางและสูตรการคำนวนราคาต่อไป

ด้านบทวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์(บล.)เมย์แบงก์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย) ระบุว่า ขณะที่ปัจจัยในประเทศนอกเหนือจากประเด็นความกังวลเลื่อนเรื่องตั้ง(เมื่อวานที่ผ่านมา ประธานสนช.ยื่น ร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญการเลือกตั้ง ส.ส. ให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยแล้ว ซึ่งกรอบระยะเวลาที่ศาลจะวินิจฉัยทั้ง 2 ฉบับ จะเป็นตัวกำหนด Roadmap การเลือกตั้ง ก.พ. 62 จะถูกเลื่อนหรือไม่) นอกจากนี้ตลาดนังเผชิญกับความเสี่ยงเรืองนโยบายของภาครัฐ(Policy risk)ที่ ส่งผลกดดันในหุ้นไทยมากกว่า 5 กลุ่ม นำโดยกลุ่ม TV-Digital, ICT, โรงกลั่น ,พลังงานทดแทน และ กลุ่มธนาคาร ซึ่งประเด็นดังกล่าวจะถูกพิจารณาในช่วง 1-2 สัปดาห์ต่อจากนี้ ทำให้ช่วงดังกล่าว จะส่งผลให้ดัชนีหุ้นไทยจะมีลักษณะ Sideway downและไม่แนะให้ นักลงทุนเก็งกำไร และคาดว่าเม็ดเงินลงทุนจะวิ่งเข้ามากลุ่มใหม่ๆที่ตั้งแต่ต้นปีติดลบหนักๆและมีDownside เริ่มจำกัด อาทิ กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และสายการบิน

ทั้งนี้ประเมินการกรอบการเคลื่อนไหวหุ้นไทยสัปดาห์นี้แกว่งในกรอบ 1,760-1780 จุด แนะนักลงทุนเปลี่ยนใช้กลุยทธ์ซื้อที่แนวรับ 1,760และทยอยขายที่บริเวณแนวต้าน 1,780และ 1,800 จุด

www.mitihoon.com