BGRIM ซุ่มดีลพลังงานข้ามชาติ บุ๊กไฟฟ้า989MW-กำไรQ2พุ่ง 191% (15/08/62)

140

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.บี.กริม เพาเวอร์ หรือ BGRIM ผู้ประกอบการโรงไฟฟ้ารายใหญ่ โดย “นางปรียนาถ สุนทรวาทะ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เผยว่า ช่วงไตรมาส 2/62 บริษัทมีรายได้จากการขายและการให้บริการทำนิวไฮที่ 10,866 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น 989 MW จากการเปิด

ดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) 12 โครงการ รวมไปถึงการซื้อหุ้นของ “บจ.บี.กริม ยันฮี โซลาร์ เพาเวอร์” เพิ่มเติมเป็น 100% ในเดือน ก.ค.61 และการเข้าซื้อโครงการ SPP1 จาก “บมจ. โกลว์ พลังงาน” ในเดือน มี.ค.62 และ การปรับขึ้นของราคาขายไฟฟ้าต่อหน่วย

บุ๊กโรงไฟฟ้าอัพกำไรพุ่ง191%

ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 1,038 ล้านบาท เป็นส่วนของผู้ถือหุ้นใหญ่ที่ 626 ล้านบาท เติบโต 191.2% และเติบโต 17.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนตามลำดับ หากไม่รวมกำไรหรือขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงและรายการที่ไม่เกิดขึ้นประจำแล้ว บริษัทมีกำไรสุทธิไตรมาส 2/62 อยู่ที่ 886 ล้านบาท เป็นส่วนของผู้ถือหุ้นใหญ่ที่ 557 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 25.7% จากไตรมาสก่อนหน้า

โดยหลักๆมาจาก การดำเนินงานของโรงไฟฟ้าแห่งใหม่ อย่าง โครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (โซลาร์ฟาร์ม)ในประเทศเวียดนาม 2 โครงการรวม 677 MW และโครงการน้ำแจ 1 กำลังการผลิต 15 MW รวมไปถึงการรับรู้ผลดำเนินงานเต็มไตรมาสของโครงการ SPP1 อีกทั้งราคาก๊าซธรรมชาติเฉลี่ยลดลง 2.4% ขณะที่ค่า Ft คงที่ และมีการปรับปรุงประสิทธิภาพของโครงการ SPP อย่างต่อเนื่อง

ไร้ผลกระทบปัญหาสายส่ง

ทั้งนี้บริษัทยืนยันว่าโครงการโซลาร์ฟาร์มในเวียดนาม ได้แก่  DT1&2 ขนาด 420 MW ขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิกาคอาเซียนและโครงการ Phu Yen TTP ขนาด 257 MW ที่ COD ไปแล้วนั้น ไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาระบบสายส่งและการเชื่อมต่อ grid ในพื้นที่บริเวณตอนกลางของประเทศเวียดนาม เนื่องจากโครงการ DT1&2 ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่ไม่มีปัญหาสายส่ง และโครงการ Phu Yen TTP ขายไฟฟ้าให้แก่ การไฟฟ้าเวียดนาม (EVN) ผ่านสายส่ง Tuy Hoa – Nha Trang 220kV ซึ่ง grid มีความพร้อมและเพียงพอที่จะรองรับการจำหน่ายไฟฟ้า ดังนั้นทั้ง 2 โครงการสามารถจำหน่ายไฟฟ้าและรับรู้รายได้จาก EVN เป็นปกติ โดยรับรู้รายได้แล้ว 183 ล้านบาทในไตรมาส 2/62

“ปัจจุบันสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนได้เพิ่มขึ้นเป็น 30% จากเดิม 8% และสัดส่วนโครงการในต่างประเทศเพิ่มขึ้นเป็น ซุ่มพลังงานเกาหลีใต้-ฟิลิปปินส์

พร้อมกันนี้บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาโครงการใหม่อีกเป็นจำนวนมากทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น ในประเทศเกาหลีใต้ เวียดนาม กัมพูชา ฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย เป็นต้นนอกจากนี้ บริษัทยังเดินหน้าโครงการระหว่างก่อสร้าง คือ โรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรม Interchem กำลังการผลิตติดตั้ง 4.8 MW มีความคืบหน้าแล้ว 50.7% คาด COD ในเดือน ธ.ค.62

สำหรับความคืบหน้าการพัฒนาโรงไฟฟ้าใหม่ทดแทนโรงไฟฟ้าเดิม บริษัทมีโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม 5 โครงการที่เข้าเกณฑ์การสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ทดแทนโรงไฟฟ้าโรงไฟฟ้าเดิม ที่ให้โครงการ SPP ที่จะหมดอายุสัญญาในระหว่างปี 2560-2568 สามารถสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ ภายใต้สัญญาซื้อขายไฟฟ้า 25 ปี วางกำหนด COD ในปี 2565 ซึ่งจะมีการนำเทคโนโลยีใหม่ที่มีประสิทธิภาพมาใช้ เพื่อให้มั่นใจว่าบริษัทจะสามารถให้บริการด้วยคุณภาพที่สูงแก่ลูกค้าอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทยังอนุมัติการจ่ายปันผลระหว่างกาลในอัตรา 0.15 บาทต่อหุ้น โดยวันกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date) คือ 28 ส.ค.62 และ วันจ่ายปันผล 10 ก.ย.62