CGS มองสัปดาห์นี้ คาดปัจจัยต่างประเทศยังต้องจับตาเรื่องเงินเฟ้อ ส่วนในประเทศผลงาน Q4/64 แนะนำ PTTEP TOP

153

มิติหุ้น-บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CGS เผย วันศุกร์ที่ผ่านมาตลาดหุ้น Dow Jones ปรับฐานลง 1.4% และ NASDAQ ปรับฐานลงมา 2.78% หลังสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างยูเครนกับรัสเซียส่อเค้าที่จะรุนแรงมากขึ้น ข้อมูลล่าสุดสหรัฐและออสเตรเลียสั่งให้เจ้าหน้าที่หน่วยงานต่างๆเร่งออกจากยูเครนเพราะหวั่นถึงความรุนแรงที่จะเกิดขึ้น

โดยเม็ดเงินไหลกลับเข้าสู่สินทรัพย์ปลอดภัยอีกครั้งในวันศุกร์ ทองคำปรับตัวขึ้น , อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวลง , Vix Index ปรับตัวขึ้น จึงทำให้ SET ช่วงต้นสัปดาห์มีโอกาสย่อตัวลงเช่นกัน อย่างไรก็ตามคาดการปรับฐานไม่รุนแรงมากนักเนื่องจาก SET มีโอกาสได้แรงหนุนจากกลุ่มน้ำมัน (PTTEP) ตามทิศทางราคาน้ำมันดิบ BRT ที่ยืนระดับสูง (วันศุกร์ +3.3%) เนื่องจากนักลงทุนมองว่าสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียกับยูเครนอาจส่งผลให้อุปทานตึงตัวมากขึ้นเพราะอาจเกิดการคว่ำบาตรรัสเซีย (รัสเซียเป็นผู้ผลิตน้ำมันอันดับ 3 ของโลก) ประกอบกับเศรษฐกิจไทยก็มิได้พึ่งพิงเศรษฐกิจรัสเซีย ในปี 2020 ไทยส่งออกไปรัสเซียคิดเป็นเพียง 0.69% ของมูลค่าส่งออกทั้งหมด ส่

วนปัจจัยสัปดาห์นี้เรื่องของเงินเฟ้อสหรัฐยังเป็นปัจจัยหลัก โดยสหรัฐมีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจดังต่อไปนี้ (1) วันอังคาร สหรัฐมีกำหนดรายงาน PPI (ดัชนีราคาผู้ผลิต) Bloomberg คาดที่ 0.5%MoM (2) วันพุธ ตัวเลขยอดค้าปลีกสหรัฐ Bloomberg คาดที่ 1.8%MoM (3) รายงานการประชุม FED ในเดือน ม.ค. ในวันพฤหัสบดี

ดังนั้นหากตัวเลขประกาศออกมายังเป็นลักษณะสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ก็อาจกลับมากดดันตลาดหุ้นได้อีกครั้ง ส่วนในประเทศจะเป็นเรื่องของผลประกอบการ 4Q21 Bloomberg คาดว่าหุ้นใน SET100 จะรายงานในสัปดาห์นี้ราว 21 บริษัท ประเมินสัปดาห์นี้เคลื่อนไหว 1650 – 1700 เชิงกลยุทธ์การลงทุน Trading รายสัปดาห์ยังมองกลุ่มน้ำมันน่าสนใจ (PTTEP) ตามปัจจัยหนุนจากความกังวลยูเครน – รัสเซีย โรงกลั่น (BCP SPRC TOP) โดยยังคงแนะว่านักลงทุนรับความเสี่ยงต่ำทยอยลดพอร์ตเนื่องจาก Valuation ที่ค่อนข้างแพงมองจุดน่าทยอยรับกลับอีกครั้งบริเวณ 1600 – 1620 ดังนั้น SET บริเวณ 1,700 จุดมองเป็นเพียงการ Trading เท่านั้น

PTTEP (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 146 บาท) ภาพรวมกำไรปี 22 เป็นบวกเพราะคาดว่ายอดขายจะโตขึ้น 12% YoY เป็น 467kBOED และราคาขายเฉลี่ยคาดโต 5% เป็น US$46/BOE โดยระยะสั้นยังได้ปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง

TOP (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 67 บาท) คาดกำไรสุทธิ 4Q21 ที่แข็งแกร่ง 5.1 พันล้านบาท (-30% YoY, +146% QoQ) หนุนจากค่าการกลั่นที่คาดสูงขึ้นเป็น US$5.5/bbl จาก US$1.6/bbl ใน 3Q21 เป็นผลจากส่วนต่างผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้นแข็งแกร่ง

🚩🚩ห้อง Official Line ห้องไลน์ฟรี มิติหุ้น ทันทุกสถานการณ์การลงทุน หุ้นเด่น หุ้นเด็ดตลอดวัน กับห้องไลน์ @mitihoonwealth ห้องไลน์ที่นักลงทุนเข้าเป็นสมาชิกฟรี ไม่มีเงื่อนไข เพียงคลิกลิงค์นี้ก็เข้าได้เลย และสามารถส่งต่อให้เพื่อนได้