“บล.พาย” ประเมินตลาดหุ้นมีโอกาสฟื้นตัวหนุนจากทิศทางดอกเบี้ยที่มิได้เข้มงวด

104

มิติหุ้น-  บทวิเคราะห์จาก บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) หรือ “Pi” “พาย” ประเมิน วันศุกร์ที่ผ่านมาตลาดหุ้น Dow Jones ฟื้นตัวแข็งแกร่ง (+2.1%) ได้แรงหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาแข็งแกร่ง หลังรายงานยอดค้าปลีกขยายตัว 1%MoM สูงกว่าตลาดคาดที่ 0.8%MoM และเมื่อเทียบรายปีขยายตัว 9.1%YoY นอกจากนี้ยังได้แรงหนุนจากความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากมหาวิทยาลัยมิชิแกนออกมาที่ 51.1 สูงกว่าตลาดคาดที่ 50 รวมไปถึงคาดการณ์เงินเฟ้อจะทดสอบระดับ 5.2% ต่ำกว่าเดือนที่แล้วที่ 5.3% นอกจากนี้ยังได้แรงหนุนจากผลประกอบการบริษัทฯที่ออกมาดีกว่าตลาดประเมินไว้ อาทิ (CITI Group) ส่วนราคาน้ำมันดิบ BRT ปรับเพิ่มขึ้น 2.1% ตลาดประเมินว่าการไปเยี่ยมซาอุฯของ Joe Biden จะมิสามารถโน้มน้าวให้ซาอุฯปรับเพิ่มกำลังการผลิต

สัปดาห์นี้คาด SET INDEX มีโอกาสฟื้นตัวในกรอบ 1525 – 1550 เชื่อว่าตลาดจะให้น้ำหนักกับเงินเฟ้อสหรัฐฯที่ผ่านจุดสูงสุดแล้วในการประกาศครั้งที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันราคาสินค้าโภคภัณฑ์หลายๆชนิดได้ปรับฐานลงมา อาทิ น้ำมันดิบ BRT (-14.6%MoM) ทองแดง (-25%MoM) อลูมิเนียม (-10%MoM) ค่าระวางเรือ (-16%MoM) ข้าวสาลี (-29%MoM) ขณะที่หากพิจารณาทิศทางดอกเบี้ยของสหรัฐฯต่อความคิดของตลาดพบว่าตลาดยังให้น้ำหนักมากสุดที่ FED จะขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมสิ้นเดือนนี้ที่ 0.75% (70.9%) และอีก 29% ให้น้ำหนักขึ้นดอกเบี้ย 1% จากก่อนหน้าคาดจะขึ้นดอกเบี้ย 1% ด้วยโอกาส 80% สะท้อนความผ่อนคลายลงของนักลงทุน เชื่อว่าตลาดให้น้ำหนักกับเงินเฟ้อที่จะเบาบางลงจากนี้ ดังนั้น ความเข้มงวดจากดอกเบี้ยจึงผ่อนคลายลง ส่วนปัจจัยในสัปดาห์นี้ของสหรัฐฯจะเน้นไปที่ภาคอสังหาฯ โดยวันอังคารจะมี (1) ใบอนุญาตก่อสร้าง Bloomberg คาดที่ 1.69 ล้าน (2) จำนวนที่อยู่อาศัยเริ่มสร้าง Bloomberg คาดที่ 1.6 ล้าน วันพุธจะมียอดขายบ้านมือสอง Bloomberg ประเมินที่ 5.4 ล้านหลังคาเรือน และสุดท้ายวันศุกร์จะมีการรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) Bloomberg ประเมินที่ 52.6 เชื่อว่าตลาดอยากเห็นตัวเลขที่ดีกว่าคาดเพื่อคลายกังวลภาวะเศรษฐกิจถดถอย อื่นๆจะเป็นการประกาศผลประกอบการทั้งในประเทศและของสหรัฐฯ เชิงกลยุทธ์แนะหุ้นได้ประโยชน์สินค้าโภคภัณฑ์ลดลง อาทิ (CBG OSP) รวมไปถึง (SCC SCGP) และ (CPG GFPT TFG) ตามทิศทางราคากากถั่วเหลืองลดลง ค้าปลีก (BJC CPALL)

COM7 (ถือ / ราคาเป้าหมาย 38.75 บาท) มองราคาหุ้นปรับฐานสะท้อนความกังวลอุปสงค์ชะลอตัวรวมถึงภาวะเงินเฟ้อไปพอสมควรแล้ว ขณะที่กำไรในปี 2022 ยังคาดจะเห็นการเติบโตราว 22% โดยมีอีกปัจจัยหนุนจากความกังวลเงินเฟ้อโลกที่คลี่คลายลง

SCGP (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 66.00 บาท) คาดธุรกิจปกติของบริษัทจะเติบโตแข็งแกร่งในช่วง 2H22 จากการขยายกำลังการผลิตและอุปสงค์ที่ฟื้นตัวขึ้นพร้อมประเมินว่าราคาขายเฉลี่ยและปริมาณขายจะโตต่อเนื่องตามต้นทุนที่สูงขึ้นจากอัตราเงินเฟ้อ บวกกับการบริโภคในประเทศและตลาดส่งออกที่ปรับดีขึ้น หลังจากสถานการณ์โควิด-19 ผ่อนคลาย

@mitihoonwealth

https://lin.ee/cXAf0Dp