ZIGA ไม่ทิ้งธุรกิจหลักลุยพัฒนาสินค้า Steel และ Non steel มั่นใจเหมืองขุดบิทคอยน์ สร้าง New S-Curve ระยะยาว

136

 

มิติหุ้น-บิ๊กบอส “ศุภกิจ งามจิตรเจริญ” ยืนยันไม่ทิ้งธุรกิจหลัก เผยแผนงานช่วงครึ่งหลังปี 65 เดินหน้าลุยพัฒนาสินค้า Steel และ Non steel สร้างแบรนด์ใกล้ชิดลูกค้า เจาะตลาด Niche Market หวังช่วยผลักดันรายได้ในปี 65 เติบโตต่อเนื่องจากปีก่อน  ส่วนเหมืองขุดบิทคอยน์ มั่นใจจะสร้าง New S-Curve ระยะยาว พร้อมปรับกลยุทธ์ขุดเหมือง-ซื้อเหรียญ ให้สอดคล้องสถานการณ์การขึ้น-ลงของราคาเหรียญ   ย้ำกลุ่มบริษัทฯ มีเหมืองจริงและปัจจุบันมีเครื่องขุดบิทคอยน์กว่า  400 เครื่อง เทียบเท่า 41,600 TH/s

นายศุภกิจ งามจิตรเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซิก้า อินโนเวชั่น จำกัด (มหาชน) (ZIGA) เปิดเผยถึงแผนการดำเนินงานในช่วงที่เหลือของปีนี้ว่า บริษัทฯยังคงมุ่งมั่นพัฒนาและเพิ่มมูลค่าสินค้าในรูปแบบทั้ง Steel และ Non steel และสร้างแบรนด์ใกล้ชิดลูกค้า   โดยเฉพาะให้ความสำคัญกับตลาด Niche Market เพื่อให้ไปถึงเป้าหมายรายได้เติบโต 15-30% จากปีก่อน

โดยได้รับปัจจัยหนุนจากธุรกิจเหล็ก ซึ่งถือเป็นธุรกิจหลักของบริษัทฯ อีกทั้งยังได้เตรียมออกผลิตภัณฑ์ใหม่คือ ท่อประปาที่คาดว่าจะเข้ามารองรับความต้องการจากลูกค้ากลุ่มเดิมที่มีมากขึ้น อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 บริษัทฯ จึงเน้นขยายช่องทางจำหน่ายในรูปแบบออนไลน์ มากกว่าการขยายช่องทางขายในรูปแบบเฟรนไชน์

นอกจากนี้ บริษัทฯ  มองเห็นโอกาสในการทำธุรกิจใหม่ ด้าน Digital Asset ประกอบกับบริษัทฯ มีความเชี่ยวชาญด้านไฟฟ้า เนื่องจากเป็นผู้ผลิตท่อร้อยสายไฟและอุปกรณ์ และอยู่ในวงการผู้รับเหมาไฟฟ้ามากว่า 25 ปี บริษัทฯมีความมั่นใจในการเริ่มเข้าสู่ธุรกิจด้านเทคโนโนโลยี สามารถสร้างโอกาสธุรกิจให้เติบโต จึงตัดสินใจลงทุนในธุรกิจ Bitcoin Mining ตั้งแต่ปลายปี 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันกลุ่มบริษัทฯมีเครื่องขุดบิทคอยน์ 400 เครื่อง เทียบเท่า 41,600 TH/s

สำหรับแผนงานและกลยุทธ์ในการบริหารจัดการความผันผวนของราคาเหรียญบิทคอยน์ในช่วงที่ผ่านมา ได้มีการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเมื่อราคาบิทคอยน์มีราคาต่ำกว่าปกติ บริษัทฯ จะบริหารจัดการโดยการ หยุดเครื่องขุดบิทคอยน์ชั่วคราว และซื้อเหรียญบิทคอยน์เข้ามาแทน

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ZIGA กล่าวอีกว่า การทำธุรกิจในช่วงเวลาที่ท้าทาย และเป็นสิ่งใหม่ อาจมีปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้ บริษัทฯ มองว่าการลงทุนในนวัตกรรมเช่น สินทรัพย์ดิจิทัล จะส่งผลดีในระยะยาว ซึ่งยังเชื่อมั่นว่าจะสร้าง New S-Curve ในอนาคตได้

โดยบริษัทฯ  มีการติดตามสถานการณ์ เพื่อปรับแผนลงทุนให้เหมาะสมและด้วยความระมัดระวัง เพื่อรักษาผลประโยชน์สูงสุดให้ผู้มีส่วนได้เสียทุกท่านที่ได้ให้ความไว้วางใจบริษัทฯ  รวมทั้งธุรกิจหลักคือ การเป็นผู้ผลิตท่อเหล็ก Pre zinc ภายใต้แบรนด์ Ziga และ Daiwa ก็ยังคงมีการพัฒนาสินค้าอย่างต่อเนื่อง พัฒนาการบริการ และขยายช่องทางการจัดจำหน่ายเพิ่มขึ้น เพื่อให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภค

@mitihoonwealth

https://lin.ee/cXAf0Dp