ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บล.คันทรี กรุ๊ป เปิดเผยบทวิเคราะห์ บมจ.ทีทีซีแอล หรือ TTCL โดยระบุว่าสิ่งที่ได้จากการเข้าพบผู้บริหารของ TTCL คือ 1.บริษัทรายงานมูลค่างานในมือ ณ สิ้นครึ่งปีแรก 2562 ที่ 1.25 หมื่นล้านบาท ซึ่งเพียงพอต่อการรับรู้รายได้ไปจนถึงไตรมาส 4/63 โดยบริษัทมีแผนจะเพิ่มงานในมืออีก 1.9 หมื่นล้านบาท จากงานทั้งหมดที่เข้าประมูลไปมูลค่ากว่า 5.7 หมื่นล้านบาท โดยรายได้จากงานก่อสร้างในครึ่งปีหลังของปี 2562 จะเร่งตัวขึ้นจากการรับรู้รายได้จากโครงการ Long Son Petrochemical Complex ของ SCC และ Olefins ของ PTT Group เพื่อให้ส่งมอบทันภายในครึ่งปีหลังของปี 2563
2. ผู้บริหารมั่นใจว่าจะสามารถรับมอบสัญญาขายไฟฟ้า (PPA) ของโครงการโรงไฟฟ้าขนาด 388 MW (TPMC) ในย่างกุ้ง มูลค่าเงินลงทุนรวม 2 หมื่นล้านบาท ภายในไตรมาส 4/62 ซึ่งเป็นโครงการเฟสที่ 2 ต่อจากโรงเดิมขนาด 120MW (TTPMC) ที่บริษัทถือหุ้นอยู่ 40% โดยบริษัทกำลังเจรจากับผู้ร่วมลงทุนเพื่อจะลดสัดส่วนการถือหุ้นในเฟสที่ 2 ลงจาก 95% มาอยู่ที่ 40% ซึ่ง ณ ปัจจุบัน บริษัทมีเงินทุนเพียงพอแล้วสำหรับส่วนของบริษัทเอง ทั้งนี้บริษัทจะรับรู้รายได้จากการก่อสร้าง และ ส่วนแบ่งการลงทุนในโครงการ โดยที่ไม่ได้ ควบรวมภาระหนี้สินเข้ามาในงบดุล ทั้งนี้บริษัทคาดจะ COD ภายในปี 2566
ทั้งนี้ TTCL รายงานกำไรในไตรมาส 2/62 ที่ 406 ล้านบาท (+60% จากไตรมาสก่อนหน้า และ พลิกจากขาดทุน 31 ล้านบาท ในไตรมาส 2/61) เป็นจุดสูงสุดในรอบมากกว่า 10 ไตรมาส ขณะที่ราคาหุ้น TTCL ปรับตัวลงกว่า 35% ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา จากจุดสูงสุดของในรอบ 1 ปีการซื้อขาย มาซื้อขายอยู่บริเวณ Trailing PBV ที่ 1.3x ซึ่งใกล้ค่าเฉลี่ยในรอบ 3 ปีสะท้อนผลประกอบการใน 2562 ที่คาดว่าจะทำจุดสูงสุดของปีไปแล้ว จากการรับรู้กำไรจากการขายหุ้น TTGP ออกไป 60% และรายได้จากโรงไฟฟ้าในพม่าที่จะลดลงตามสัดส่วนการถือหุ้นที่ขายออกไปในช่วงปลายไตรมาส 2/62
ดังนั้นฝ่ายวิจัยจึงแนะนำนักลงทุนติดตามผลประมูลโครงการใหม่ๆ และการประกาศสัญญาซื้อขายไฟ (PPA) ของโรงไฟฟ้า เฟส 2 ซึ่งจะมีผลต่อกำไรสุทธิของบริษัทอย่างมีนัยยะในปี 2566 ทั้งนี้อิงจากข้อมูลของ Bloomberg Consensus มีนักวิเคราะห์2 ราย จาก 4 ราย แนะนำ ‘ซื้อ’ ที่ราคาเป้าหมาย 11.20 บาท
www.mitihoon.com
