มิติหุ้น – Phuket’s Transformative Shift สู่ทิศทางการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในอนาคต “ภูเก็ต” หนึ่งในจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดของประเทศไทยและของโลก ด้วยโครงสร้างเศรษฐกิจที่โดดเด่นจากภาคการท่องเที่ยว โดยมีแหล่งรายได้มหาศาลจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก และมีศักยภาพในการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วจากวิกฤตการณ์ใหญ่ ๆ อาทิ วิกฤตการณ์โควิด-19 โดยภูเก็ตเป็นจังหวัดแรก ๆ ของประเทศไทยที่ริเริ่มโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ซึ่งเป็นโมเดลนำร่องในการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วโดยไม่ต้องกักตัว สะท้อนศักยภาพแข็งแกร่งของภูเก็ตในการฟื้นตัว สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวและนักลงทุนที่มีกำลังซื้อสูงได้อย่างรวดเร็ว
ภูมิชาย มัธยมภพภิญโญ กรรมการผู้จัดการกลุ่มธุรกิจพัฒนาโครงการภาคใต้ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ภูเก็ตเติบโตสู่การเป็น “เมืองต้นแบบ” ที่ผสมผสานการท่องเที่ยวระดับโลก ไลฟ์สไตล์ การลงทุน และการอยู่อาศัยได้อย่างลงตัว เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่น่าจับตาที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สู่การเป็น The World’s Elite Destination โดยคีย์ไดร์เวอร์สำคัญที่ขับเคลื่อนภูเก็ตสู่การเป็นศูนย์กลางระดับโลก ได้แก่ การท่องเที่ยวและการบริการระดับพรีเมียม การพัฒนาแบบครบวงจรทั้งแหล่งที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน การขยายตัวของสนามบินและโครงสร้างพื้นฐาน การเติบโตของโรงเรียนนานาชาติ การยกระดับเป็นศูนย์กลางการศึกษาและการแพทย์ และการพัฒนาสู่ Sport & Wellness Hub โดยปัจจัยเหล่านี้ล้วนส่งผลให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตเติบโตอย่างก้าวกระโดด ไม่ใช่แค่บ้านพักตากอากาศ แต่รวมถึงโครงการเพื่อการลงทุน ที่อยู่อาศัยระยะยาว และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์แบบครบวงจร โดยเฉพาะโครงการระดับ Ultra Luxury ที่ยังมีความต้องการสูงจากทั้งชาวไทยและต่างชาติ โดยภูเก็ตเป็นที่ต้องการของกลุ่มผู้ที่มีความมั่งคั่งทั่วโลก ติด Top 4 ของโลก รองจากดูไบ ฟลอริดา และนิวยอร์ก มีราคาที่ดินเติบโตอย่างก้าวกระโดดในรอบ 20 ปี เพิ่มขึ้นถึง 700%”
“นอกจากนี้ ประเทศไทยยังมีปัจจัยสนับสนุนที่แข็งแกร่ง ส่งผลให้ภูเก็ตเป็นเมืองที่น่าดึงดูดสำหรับการลงทุนอสังหาริมทรัพย์และการอยู่อาศัยสำหรับชาวต่างชาติ ทั้งความชัดเจนทางกฎหมายในการถือกรรมสิทธิ์ของชาวต่างชาติ และกฎหมายสมรสเท่าเทียม ถือเป็นสะพานเชื่อมโยงความเท่าเทียมทางกฎหมายเข้ากับโอกาสทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะภาคอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งช่วยเพิ่มความมั่นใจและแรงจูงใจให้กับชาวต่างชาติกลุ่ม LGBTQIAN+ ในการเข้ามาลงทุนและวางแผนชีวิตในประเทศไทย ยิ่งไปกว่านั้น ภูเก็ตเป็นเมืองที่สามารถสะท้อนความมั่งคั่ง (Wealth) ได้อย่างชัดเจน เป็นแหล่งรวมท่าจอดเรือยอร์ชชั้นนำระดับโลก รวมถึงมี Private Jet Terminal ตอกย้ำความเป็น World Class Destination ของภูเก็ต” ภูมิชาย กล่าวเสริม
New Demands = New Opportunities เผยอินไซต์ตลาดอสังหาฯ ภูเก็ต
ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา แสนสิริเล็งเห็นการเติบโตของกลุ่มลูกค้าหน้าใหม่ในตลาดอสังหาฯ ภูเก็ต ทั้งกลุ่มนักลงทุนอสังหาฯ และเรียลดีมานด์ชาวไทยและชาวต่างชาติ ยกตัวอย่างเช่น กลุ่มนักลงทุนชาวต่างชาติหน้าใหม่ อาทิ ชาวอิสราเอล, กลุ่มประเทศที่ใช้ภาษารัสเซีย (รัสเซีย, เบลารุส, คาซัคสถาน, คีร์กีซสถาน) ชาวอินเดีย รวมถึงกลุ่มประเทศในตะวันออก ที่มองหาการกระจายพอร์ตการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากตลาดในประเทศของตนเองเริ่มถึงจุดสูงสุด กลุ่มเรียลดีมานด์ชาวต่างชาติที่มี Wealth สูง ไม่ว่าจะเป็นอดีตพนักงานจากบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Ex-Google หรือ Ex-Microsoft ที่เป็นกลุ่ม LGBTQIAN+ และวางแผนตั้งถิ่นฐานหรือลงทุนในประเทศที่ให้ความคุ้มครองทางกฎหมายและมีความเปิดกว้าง
กลุ่มลูกค้าชาวไทยในเมืองภูเก็ต มีทั้งกลุ่มนักลงทุนที่ไม่ใช่คนท้องถิ่น และเคยประสบความสำเร็จในการลงทุนในกรุงเทพฯ และเริ่มมองหาแหล่งลงทุนใหม่อย่างภูเก็ต ที่มี Yield สูง กลุ่มนักลงทุนที่เป็นคนภูเก็ต อย่างเถ้าแก่และเจ้าของกิจการในพื้นที่ที่มองเห็นศักยภาพและลงทุนในอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง กลุ่มคนภูเก็ตที่เป็นเรียลดีมานด์ ซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง ด้วยเหตุผลด้านส่วนกลางและการดูแลรักษาระยะยาวที่ดี และกลุ่มประชากรแฝงที่เข้ามาทำงานในภูเก็ต ซึ่งถึงเป็น Hub แหล่งงานของภาคใต้ คาดการณ์ว่ามีจำนวนถึง 3-4 แสนคน
วิถีชีวิตที่แตกต่างหลากหลายของคนภูเก็ต
ภูเก็ต เป็นเมืองที่สะท้อนความเป็นเมืองที่เชื่อมโยงคนหลากเชื้อชาติและหลายรูปแบบการใช้ชีวิต มีโครงสร้างประชากรที่หลากหลายและเติบโตต่อเนื่อง โดยภูเก็ตมีประชากรประมาณ 460,800 คน เพิ่มขึ้น 7% จากเมื่อ 5 ปีก่อน และ 17% จากเมื่อ 10 ปีก่อน ในจำนวนนี้กว่า 430,000 คน อาศัยอยู่ในเขตเมืองและพื้นที่โดยรอบที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว (Urban Agglomeration) โดยประชากรหลากหลายกลุ่มผสมผสานกันอย่างลงตัว ประกอบด้วย ชาวภูเก็ตดั้งเดิม, คนไทยจากภูมิภาคอื่นที่ย้ายถิ่นมาเพื่อทำงานและตั้งถิ่นฐาน, ครอบครัวใหม่ที่เลือกภูเก็ตเป็นบ้านหลังใหม่และชาวต่างชาติ (Expat) ที่พำนักอยู่ระยะยาวกว่า 115,000 คน ในสายตาชาวต่างชาติ ภูเก็ตเป็นเมืองน่าอยู่ในราคาที่เข้าถึงได้ เมื่อเทียบกับมาตรฐานเมืองใหญ่ในต่างประเทศ คุ้มค่า และให้คุณภาพชีวิตที่ดี มีปัจจัย 4 ครบ ทั้งแหล่งอาหาร แหล่งช้อปปิ้ง ที่อยู่อาศัยพรีเมียม ศูนย์สุขภาพและ Wellness รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานอื่น ๆ และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
สมสกุล หลิมศุทธพรรณ รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจและบริหารสินทรัพย์ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด กล่าวว่า “ภูเก็ตแบ่งออกเป็น 2 โซนหลักที่สะท้อนความต้องการและวิถีชีวิตที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน ได้แก่ โซนในเมือง มีคนไทยอยู่อาศัยประมาณ 60% และชาวต่างชาติ 40% กลุ่มผู้ซื้อส่วนใหญ่เป็น เรียลดีมานด์ เช่น คนทำงานในพื้นที่ ชาวต่างชาติที่พำนักระยะยาว และคนไทยที่มองหาบ้านหลังที่สองในทำเลที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน มีจุดเด่นคือความสะดวกในการเดินทาง ใกล้แหล่งงาน โรงเรียน และศูนย์การแพทย์ และโซนรอบเมือง เช่น โซนเชิงทะเล ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีชาวต่างชาติอยู่อาศัยมากถึง 70–80% นักลงทุนอสังหาริมทรัพย์คิดเป็นสัดส่วนราว 80%* ของผู้ซื้อในโซนนี้ เหมาะกับการลงทุนด้านบ้านพักตากอากาศ วิลล่าหรู หรือคอนโดมิเนียมที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ต่างชาติ โดยพลัสฯ ออกแบบบริการเฉพาะในแต่ละพื้นที่ให้สอดคล้องกับแนวทางการอยู่อาศัยและไลฟ์สไตล์ของลูกค้าในแต่ละโซน พร้อมชูบริการ Plus Concierge ที่ช่วยตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้า อาทิ บริการแม่บ้าน ทำสวน ทำความสะอาดสระว่ายน้ำ บริการขนย้ายเข้า-ออกบ้าน บริการรับส่งสนามบิน จัดการชำระค่าน้ำไฟ ดูแลการปล่อยเช่า และช่วยจัดทำเอกสารคนเข้าเมือง (Immigration) ตอบโจทย์ทั้งลูกค้าที่อยู่อาศัยเองและนักลงทุนที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยและปล่อยเช่า”
แสนสิริ เติบโตเคียงข้างภูเก็ตมากว่า 16 ปี
แสนสิริเติบโตเคียงข้างชาวภูเก็ตมาอย่างยาวนาน ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญกว่า 40 ปีในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของแสนสิริ ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ที่ไม่หยุดนิ่งในการพัฒนาโครงการ และมุ่งเน้นในเรื่องคุณภาพ ดีไซน์ ฟังก์ชันและบริการ ตอกย้ำถึงความมั่นคงและความน่าเชื่อถือให้กับผู้ซื้อและนักลงทุน แสนสิริได้เข้ามาพัฒนาโครงการในภูเก็ตมากว่า 16 ปี โดยมี Head Office แห่งที่สองในภูเก็ต และได้พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยหลากหลายระดับราคา รวมกว่า 28 โครงการ คิดเป็นมูลค่ารวมราว 3 หมื่นล้านบาท ปัจจุบัน มี 2 คอนโดมิเนียมสร้างเสร็จและพร้อมโอนล่าสุด ได้แก่ เดอะ เบส บูกิต ภูเก็ต และ เดอะ เบส ไรส์ ภูเก็ต และเตรียมเปิดตัวโครงการใหม่ เศรษฐสิริ เกาะแก้ว รีทรีต บ้านเดี่ยวสไตล์โมเดิร์น ท่ามกลางบรรยากาศแห่งการพักผ่อนที่เงียบสงบ บนทำเลเกาะแก้วในไตรมาส 3 นี้
นอกจากนี้ แสนสิริพร้อมมอบบริการ Never Ending Service โดยพลัส พร็อพเพอร์ตี้ มีหัวใจสำคัญของการบริการคือ “คน” โดยพนักงานทุกคนผ่านการฝึกอบรมจากสถาบัน Plus Eduplex ซึ่งเป็นศูนย์การเรียนรู้ของพลัส พร็อพเพอร์ตี้ที่เปิดมานานกว่า 6 ปี และในปีนี้ได้รับรางวัลระดับนานาชาติ ‘Best In-house Learning Academy’ จากงาน Employee Experience Awards 2025 ซึ่งเป็นการการันตีคุณภาพของบุคลากรที่สามารถส่งมอบบริการที่มีคุณภาพและมาตรฐานให้กับลูกค้าได้ สถาบันนี้มุ่งพัฒนาบุคลากรให้มีบริการระดับพรีเมียม ผ่านหลักสูตรที่หลากหลายและทันสมัย เช่น การดูแลด้านการแต่งกายและบุคลิกภาพ, การกล่าวต้อนรับ, การสื่อสารภาษาต่างประเทศ, การดูแลทรัพย์สินมูลค่าสูง, การเรียนรู้ความต้องการของลูกค้าในแต่ละประเทศ และการทำให้ ‘มากกว่า’ ที่ลูกค้าคาดหวัง (Beyond Expectations) ซึ่งเป็นดีเอ็นเอของทีมงานพลัสฯ ทุกคน โดยพลัส พร็อพเพอร์ตี้ ไม่ได้แค่ให้บริการด้านการอยู่อาศัย แต่ยังมุ่งสร้าง “คอมมูนิตี้” ที่มีคุณภาพและยั่งยืนไปพร้อมๆ กัน มีการจัดกิจกรรมเพื่อให้ผู้อยู่อาศัยเข้าร่วมเป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมตามเทศกาล, กิจกรรมร่วมกับ The Society และกิจกรรมด้านความยั่งยืน เช่น เก็บขยะริมหาด และการคัดแยกขยะในโครงการ
ปัจจุบัน ภูเก็ตกำลังเผชิญกับตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่การแข่งขันสูงขึ้นอย่างมาก ทำให้ผู้ซื้อมีตัวเลือกหลากหลาย ดีเวลลอปเปอร์ที่มีความน่าเชื่อถือ มีประสบการณ์ และสามารถดูแลลูกค้าได้อย่างครบวงจร ตั้งแต่ก่อนขายจนถึงบริการหลังการขายที่ดีเยี่ยม จะเป็นผู้ที่ยืนหยัดและเติบโตได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าว่าการลงทุนในภูเก็ตจะคุ้มค่าและปลอดภัยในสภาพตลาดที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon
