Source: Polymarket, Bloomberg, TISCO Economic Strategy Unit (TISCO ESU)
- เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2025 พรรคเสรีประชาธิปไตย (Liberal Democratic Party: LDP) ได้โหวตเลือกคุณ Sanae Takaichi เป็นหัวหน้าพรรค LDP คนใหม่ แทนคุณ Shigeru Ishiba ที่ประกาศลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคเมื่อช่วงต้นเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งผลโหวตดังกล่าวถือว่าผิดไปจากที่นักลงทุนทั้งในญี่ปุ่นและต่างประเทศคาดการณ์ไว้ เนื่องจากก่อนการเลือกตั้ง สื่อส่วนใหญ่รายงานว่าคะแนนเสียงจากสมาชิกรัฐสภาของ LDP มีแนวโน้มหนุนให้นาย Shinjiro Koizumi เป็นผู้ชนะ โดยในการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคครั้งนี้ มีผู้สมัครทั้งหมด 5 คน และไม่มีผู้ใดได้รับเสียงข้างมากจากการลงคะแนนเสียงที่ถูกต้องทั้งหมด 590 เสียงในรอบแรก ส่งผลให้ผู้ที่ได้คะแนนสูงสุดสองอันดับแรก ได้แก่ คุณ Sanae Takaichi และนาย Shinjiro Koizumi ได้เข้าสู่การลงคะแนนรอบชี้ขาด (Run-off) ซึ่งพบว่า คุณ Sanae Takaichi ได้รับคะแนนเสียงจากสมาชิกรัฐสภาของ LDP มากกว่านาย Shinjiro Koizumii ส่งผลให้เธอสามารถเอาชนะนาย Shinjiro Koizumi ได้ ด้วยคะแนนรวม 185 เสียง (vs. นาย Shinjiro Koizumi 156 เสียง) โดยคุณ Sanae Takaichi มีแนวโน้มได้รับการเสนอชื่อให้เป็นนายกรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการและจัดตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ในช่วงกลางเดือน ต.ค. นี้ ซึ่งหลังจากการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีเสร็จสิ้น คณะรัฐมนตรีชุดใหม่คาดว่าจะเริ่มจัดทำแพ็กเกจนโยบายเศรษฐกิจและงบประมาณเพิ่มเติม โดยเน้นมาตรการ บรรเทาค่าครองชีพที่สูงขึ้นและมาตรการรับมือผลกระทบจากการขึ้นภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ
- แม้จะมีการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี แต่พรรคร่วมรัฐบาลยังคงไม่มีเสียงข้างมากทั้งในสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา โดยคุณ Sanae Takaichi กล่าวว่าเธอจะให้ความสำคัญกับพรรคร่วมรัฐบาล LDP–Komeito เป็นหลัก แต่ก็พร้อมพิจารณาเพิ่มพรรคที่มีแนวคิดนโยบายพื้นฐานคล้ายกันเข้าร่วมรัฐบาลได้เพื่อสร้างเสถียรภาพทางการเมือง โดยรัฐบาลใหม่ภายใต้การนำของคุณ Sanae Takaichi อาจพยายามขยายกรอบความร่วมมือไปยังพรรคฝ่ายค้าน โดยเฉพาะพรรคประชาธิปไตยเพื่อประชาชน (Democratic Party for the People: DPP) ที่ถูกมองว่าเป็นพันธมิตรที่เป็นไปได้ เนื่องจากมีเป้าหมายร่วมกัน เช่น นโยบายการคลังเชิงรุก
- หลังทราบผลการเลือกหัวหน้าพรรค LDP คนใหม่ ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวขึ้น ขณะที่ค่าเงินเยนอ่อนค่าลง รวมถึง yield curve ชันมากขึ้น จากการที่ตลาดคาดการณ์ถึงแรงหนุนด้านนโยบายการคลังที่มีแนวโน้มขยายตัวมากขึ้น และปรับลดโอกาสที่ BoJ จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมเดือนนี้ลง เนื่องจากคุณ Sanae Takaichi เป็นผู้สนับสนุนแนวทาง Abenomics โดยเธอสนับสนุนนโยบายการคลังเชิงรุกและนโยบายการเงินผ่อนคลายเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ส่งผลให้นโยบายการคลังของญี่ปุ่นในระยะต่อไปมีแนวโน้มผ่อนคลายมากขึ้น ซึ่งคาดว่าจะเป็นผลดีต่ออุปสงค์ในประเทศ
- ในการแถลงข่าวหลังจากได้รับการเลือกให้เป็นผู้นำพรรค LDP คนใหม่ คุณ Sanae Takaichi ระบุว่าจะให้ความสำคัญกับการรับมือกับราคาสินค้าที่สูงขึ้น (Countermeasures against rising prices) เป็นอันดับแรก โดยแนวคิดหลักของเธอคือการใช้นโยบายการคลังแบบขยายตัวอย่างมีความรับผิดชอบ (Responsible expansionary fiscal policy) พร้อมทั้งระบุว่า งบประมาณสำหรับมาตรการเหล่านี้จะมาจากรายได้ภาษี (Upswing in tax revenue) และเงินทุนที่มีอยู่ของรัฐบาล โดยมีมาตรการสำคัญ เช่น การยกเลิกภาษีน้ำมันเบนซินแบบชั่วคราวและลดภาษีน้ำมันดีเซล การเพิ่มเพดานรายได้ขั้นต่ำที่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา รวมถึงการจัดทำระบบลดหย่อนภาษีควบคู่กับการแจกเงินสด (Refundable tax credits with cash handout) ในช่วง 2–3 ปีข้างหน้า เพื่อช่วยเหลือครัวเรือนรายได้ปานกลางถึงต่ำ นอกจากนี้ เธอเสนอให้จัดสรรงบอุดหนุนให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนำไปใช้ตามดุลยพินิจ รวมถึงระบุว่าจะส่งเสริมการลงทุนของรัฐบาลในภาคส่วนที่สำคัญ เช่น AI, Semiconductors, Quantum computing, Advanced medicine เป็นต้น โดยเธอย้ำว่าแม้วินัยทางการคลังจะสำคัญ แต่ไม่ใช่เป้าหมายสูงสุด เนื่องจากนโยบายการคลังควรมุ่งสู่การเติบโตทางเศรษฐกิจ และรัฐบาลอาจพึ่งพาการออกพันธบัตรรัฐบาลเพิ่มเติมได้
- ทั้งนี้ แม้ว่าในช่วงก่อนหน้านี้ คุณ Sanae Takaichi ได้เสนอให้ลดภาษีการบริโภค (Consumption Tax) สำหรับสินค้าอาหารลงเหลือ 0% เพื่อบรรเทาผลกระทบจากค่าครองชีพที่สูงขึ้นให้แก่ประชาชน แต่ล่าสุดเธอกล่าวว่าการเปลี่ยนแปลงระบบภาษีดังกล่าวจะต้องใช้เวลา และอาจไม่เหมาะสมสำหรับเป็นมาตรการบรรเทาเงินเฟ้อในระยะสั้นนี้
- ด้านผลกระทบต่อการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ): แม้ในปี 2024 คุณ Sanae Takaichi ได้เคยออกมาวิจารณ์การขึ้นดอกเบี้ยของ BoJ ว่าไม่เหมาะสม แต่ในช่วงที่ผ่านมาก่อนถึงวันเลือกผู้นำพรรค LDP ในครั้งนี้ เธอหลีกเลี่ยงที่จะพูดถึงการดำเนินนโยบายของ BoJ ซึ่งอาจบ่งชี้ว่าเธออาจลดการแทรกแซงการดำเนินนโยบายของ BoJ มากกว่าที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม เธอยังคงเป็นผู้สนับสนุนนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายและระมัดระวังต่อการขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งอาจเป็นปัจจัยที่จำกัดขอบเขตการดำเนินนโยบายของ BoJ ได้ โดยในการแถลงข่าวหลังชนะการเลือกตั้ง คุณ Sanae Takaichi กล่าวว่าการดำเนินนโยบายของ BoJ ควรสอดคล้องกับนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาล และมองว่านโยบายการเงินควรอยู่ในระดับที่ผ่อนคลายเพื่อส่งเสริมการขยายตัวทางเศรษฐกิจ โดย Base case ของเรายังมองว่า BoJ มีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายครั้งต่อไป 25bps ในการประชุมสิ้นเดือน ต.ค. นี้ แต่มีความเสี่ยงโน้มไปทางด้านต่ำมากขึ้นว่า BoJ อาจชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายออกไปได้ โดยการประชุม BoJ ในเดือน ต.ค. นี้ จะเป็นบททดสอบสำคัญว่าคุณ Sanae Takaichi จะมีอิทธิพลต่อการดำเนินนโยบายการเงินของ BoJ มากน้อยเพียงใด เนื่องจากเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา BoJ ได้ส่งสัญญาณในเชิงบวกเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือน ต.ค. นี้ ผ่านการประเมินว่าปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศเหมาะสมที่จะลดความผ่อนคลายของนโยบายการเงินที่มากเกินไปในช่วงที่ผ่านมา โดยเราคาดว่า BoJ จะยังไม่เปลี่ยนจุดยืนอย่างมีนัยสำคัญในระยะสั้นนี้ แต่หากเกิดการเปลี่ยนแปลงในท่าทีของ BoJ ในระยะต่อไปโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงของข้อมูลทางเศรษฐกิจที่ชัดเจน อาจเป็นหลักฐานชี้ว่า BoJ ได้คำนึงถึงอิทธิพลของปัจจัยทางการเมืองมากขึ้นในการตัดสินใจนโยบายการเงิน
Today’s Data Releases
- สหรัฐฯ: ดุลการค้า (Trade Balance) เดือน ส.ค.
Key economic indicators
Source: Bloomberg, TISCO Economic Strategy Unit (TISCO ESU)
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon
