มิติหุ้น – Investment Strategy
• สรุปภาพรวมตลาด ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 500 จุดในวันจันทร์ (17 พ.ย.) ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดที่ระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 50 วันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนเม.ย. โดยตลาดถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ขณะที่นักลงทุนรอดูรายงานผลประกอบการรายไตรมาสจากบริษัทค้าปลีกและบริษัทผลิตชิปยักษ์ใหญ่อย่าง Nvidia รวมทั้งจับตาตัวเลขจ้างงานของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้
ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 46,590.24 จุด ลดลง 557.24 จุด หรือ -1.18%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,672.41 จุด ลดลง 61.70 จุด หรือ -0.92% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 22,708.07 จุด ลดลง 192.51 จุด หรือ -0.84%
ส่วนตลาดหุ้นยุโรปปิดลบในวันจันทร์ (17 พ.ย.) ขณะที่นักลงทุนหลีกเลี่ยงการลงทุนลอตใหญ่ก่อนการรายงานข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐฯ ซึ่งนักลงทุนรอคอยกันมานานและอาจช่วยให้เห็นภาพชัดเจนขึ้นเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งใหญ่ที่สุดในโลก
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 571.68 จุด ลดลง 3.13 จุด หรือ -0.54%
• สรุปภาพรวมสินทรัพย์อื่นๆ สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันจันทร์ (17 พ.ย.) โดยถูกกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และจากการที่นักลงทุนลดความคาดหวังที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจในสัปดาห์นี้ เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับแนวโน้มนโยบายการเงินของเฟด
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 19.7 ดอลลาร์ หรือ 0.48% ปิดที่ 4,074.50 ดอลลาร์/ออนซ์
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 19 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 64.20 ดอลลาร์/บาร์เรล
• SET Index:
เราคาดการณ์กรอบ SET Index 1,270-1,300 จุด แกว่งในกรอบ วันนี้ SET อาจจะได้รับผลกระทบจากการปรับตัวลดลงของตลาดหุ้นสหรัฐฯ รวมถึง GDP ไทยที่ ขยายตัว 1.2% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลง 0.6% เทียบกับไตรมาสก่อนในไตรมาสที่ 3 ปี 2025 ซึ่งต่ำกว่าทั้งประมาณการของเราและประมาณการของ Bloomberg
จับตา รายงานผลประกอบการรายไตรมาสจากบริษัทค้าปลีกและบริษัทผลิตชิปยักษ์ใหญ่อย่าง Nvidia รวมทั้งจับตาตัวเลขจ้างงานของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้
หุ้นแนะนำ
BDMS:
รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 3 ปี 2025 อยู่ที่ 4,319 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 2% จากปีก่อน, เพิ่มขึ้น 24% จากไตรมาสก่อน) สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ 3% และสูงกว่าที่ Bloomberg คาดการณ์ไว้ 5% จากรายได้และอัตรากำไรที่แข็งแกร่งกว่าที่คาด แม้จะมีการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น
(Take profit : 19.70 / Stop loss : 19.00)
KTB:
ธนาคารกรุงไทยมุ่งมั่นที่จะสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้ถือหุ้นอย่างยั่งยืน และ ตั้งเป้าที่จะรักษาอัตราส่วนผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) ในระดับสองหลักในอีกสามปีข้างหน้า
(Take profit : 28.50 / Stop loss : 26.50)
#CGSInternational
#CGSI
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon
