มิติหุ้น – Investment Strategy
• สรุปภาพรวมตลาด ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับลงเล็กน้อยในวันจันทร์ (15 ธ.ค.) ขณะที่นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจหลายรายการในสัปดาห์นี้ รวมทั้งติดตามความคืบหน้าในการสรรหาผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) คนใหม่ และการแสดงความเห็นของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด เพื่อประเมินแนวโน้มอัตราดอกเบี้ย
ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 48,416.56 จุด ลดลง 41.49 จุด หรือ -0.09%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,816.51 จุด ลดลง 10.90 จุด หรือ -0.16% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 23,057.41 จุด ลดลง 137.76 จุด หรือ -0.59%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันจันทร์ (15 ธ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มธนาคารซึ่งปรับตัวขึ้นท่ามกลางบรรยากาศการลงทุนที่เป็นบวก หลังนักลงทุนกลับเข้าลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง ขณะจับตาการตัดสินใจนโยบายการเงินของธนาคารกลางหลายแห่ง รวมถึงการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 582.54 จุด เพิ่มขึ้น 4.30 จุด หรือ +0.74%
• สรุปภาพรวมสินทรัพย์อื่นๆ สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเล็กน้อยในวันจันทร์ (15 ธ.ค.) โดยราคาทองคำลดช่วงบวกหลังจากพุ่งขึ้นทะลุระดับ 4,360 ดอลลาร์ในระหว่างวัน เนื่องจากความคืบหน้าในการเจรจาสันติภาพเพื่อยุติสงครามในยูเครนได้ทำให้นักลงทุนลดความต้องการถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานของสหรัฐฯ เพื่อประเมินแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 6.90 ดอลลาร์ หรือ 0.16% ปิดที่ 4,335.20 ดอลลาร์/ออนซ์
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 56 เซนต์ หรือ 0.92% ปิดที่ 60.56 ดอลลาร์/บาร์เรล
• SET Index:
เราคาดการณ์กรอบ SET Index 1,250-1,285 จุด โดย ระมัดระวังแรงเทขายตามตลาดหุ้นต่างประเทศ รวมถึง แรงเก็งกำไรในหุ้นที่เข้า-ออก SET50 / SET100 รอบใหม่ (1 ม.ค.) และ ประเด็น ค่าเงินบาท US$/THB ที่แข็งค่าสุดในรอบ 4 ปี จับตาการประชุมกนง. พรุ่งนี้ โดย เราคาดว่า กนง. จะลดดอกเบี้ย 25bp
หุ้นแนะนำ
GFPT:
การฟื้นตัวของการส่งออกไปยังสหภาพยุโรป/สหราชอาณาจักร, ปัจจัยหนุนด้านต้นทุนจากราคาอาหารสัตว์ที่ลดลง และ ราคาไก่ที่คงที่ รวมถึง การขยายกำลังการผลิตในครึ่งหลังของปี 2026 เป็นปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนการเติบโต
เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 2025 ขึ้น 11% และปี 2026 ขึ้น 8% โดยได้รับแรงหนุนจากความต้องการส่งออกที่แข็งแกร่งขึ้น อัตรากำไรสุทธิสูง ปัจจัยหนุนด้านต้นทุน และกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น
(Take profit : 10.60 / Stop loss : 10.00)
BCH:
BCH คาดการณ์รายได้เติบโต 5% เมื่อเทียบกับปีก่อนในปี 2026 ท่ามกลางภาวะการกลับมาของผู้ป่วยจากตะวันออกกลางที่ชะลอตัว
ด้วยรายได้ผู้ป่วยต่างชาติที่ลดลงอย่างมาก โดยเฉพาะจากตะวันออกกลางและกัมพูชาในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2025 เราเชื่อว่า Downside risks เริ่มจำกัด
(Take profit : 10.60 / Stop loss : 10.00)
#CGSInternational
#CGSI
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon
