Cryptocurrency ช่องทางสร้างผลตอบแทนสูง

1312

ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาเชื่อว่าหลายๆ คนคงจะเคยได้ยินคำว่า “Cryptocurrency” หรือ “สกุลเงินดิจิทัล” ซึ่งถือเป็นโลกแห่งการลงทุนรูปแบบใหม่ที่เกิดขึ้นมาจากการพัฒนาของเทคโนโลยี โดยเป็นตลาดที่นักลงทุนทั่วโลกสามารถเข้ามาลงทุนได้และเปิดการซื้อขายตลาด 24 ชั่วโมงโดยไม่มีวันหยุด รวมทั้งยังสามารถสร้างผลตอบแทนในระดับสูงได้เพียงชั่วพริบตา ส่งผลให้การลงทุนใน Cryptocurrency ได้รับความสนใจจากนักลงทุนและหน่วยงานภาครัฐเพิ่มมากขึ้น

วันนี้เราจะพานักลงทุนไปรู้จักกับตลาด Cryptocurrency ให้มากขึ้น โดย “ดร.ธรรม์ธีร์ สุกโชติรัตน์” ผู้คร่ำหวอดและผู้บุกเบิกฟินเทค (เทคโนโลยีการเงิน) ในประเทศไทย พร้อมประสบการณ์ในการบริหารและที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีทั้งในประเทศและต่างประเทศมากกว่า 10 ปี และวันนี้กับก้าวใหม่ในการร่วมมือกับ J.I.B. Computer Group (J.I.B.) ในการก่อตั้ง “JIBEX หรือ จิ๊บเอ็กซ์” เว็บไซต์และแอปพลิเคชั่นสำหรับบริหารจัดการลงทุนและซื้อขายแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัล

โดย ดร.ธรรม์ธีร์ สุกโชติรัตน์ ประธานกรรมการบริหาร JIBEX กล่าวว่า Cryptocurrency ตอนนี้ถือว่าเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นในวงกว้างของการลงทุน ซึ่งการลงทุนใน Cryptocurrency ก็มีรูปแบบคล้ายกับการลงทุนในตลาดหุ้น เพียงแต่ในขณะที่ยังไม่มีกฎเกณฑ์ที่ออกมาดูแลหรือควบคุมอย่างชัดเจนนั้น ทำให้นักลงทุนบางส่วนยังรอดูทีท่าจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่จะออกกฎมาสนับสนุนหรือควบคุมให้ชัดเจนก่อน ซึ่งตอนนี้มีเพียงแค่ประเทศญี่ปุ่น สิงคโปร์ ฮ่องกง และออสเตรเลีย ที่ออกกฎมาในเชิงสนับสนุนการเติบโตของการลงทุนดิจิทัลรูปแบบใหม่นี้ โดยหลังจากประเทศไทยมีความชัดเจนเรื่องกฎที่จะออกมาควบคุมดูแล ก็จะช่วยให้นักลงทุนกล้าตัดสินใจเข้ามาในตลาด Cryptocurrency มากขึ้น

“ตลาดหุ้น” กับ “Cryptocurrency”

อย่างไรก็ตาม แม้ในหลักการของการลงทุนระหว่าง “ตลาดหุ้น” กับ “ตลาด Cryptocurrency” จะมีความคล้ายคลึงกันอยู่อย่างมาก แต่ข้อแตกต่างก็คือตลาด Cryptocurrency ถือเป็นตลาดเดียวกันทั่วโลก มีขนาดตลาด (Market size) และมูลค่าตลาด (Marketcap) ที่ใหญ่และมีแนวโน้มจะเติบโตขึ้นสูงมาก เพราะเป็นช่องทางที่ช่วยให้นักลงทุนทั่วไปสามารถลงทุนสินทรัพย์ต่างประเทศได้ง่ายขึ้น

นอกจากนี้ ส่วนตัวมองว่า Cryptocurrency เป็นตลาดที่สามารถสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนได้ในระดับสูงกว่าตลาดหุ้น แต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงที่สูงเช่นกัน หรือที่เรียกว่า “High risk, high return” ซึ่งความรู้ความเข้าใจในการลงทุนและการลงทุนในปริมาณที่เหมาะสมถือเป็นหัวใจที่สำคัญมากของนักลงทุน โดยในอดีตก็จะมีตลาดทอง ตลาด Forex หรือตลาดฟิวเจอร์ ที่มีความเสี่ยงสูงในระดับนี้

เมื่อพูดถึง Cryptocurrency หรือ สกุลเงินดิจิทัล มักจะมีการพูดถึงการออกเหรียญสกุลเงินดิจิทัลเพื่อระดมทุน หรือที่เรียกว่า ICO (Initicial Coin Offering) แต่ทุกเหรียญสกุลเงินดิจิทัลไม่ถือว่าเป็น ICO ทั้งหมด เพราะ ICO คือการออกเหรียญสกุลเงินดิจิทัลสกุลใหม่เพื่อการระดมทุนไปพัฒนา บริหารโปรเจคต่างๆ ตามที่ได้ประกาศไว้ให้แก่นักลงทุน ซึ่งในช่วงหลังๆ นี้ก็จะเห็นว่ามีหลายๆ บริษัท หลายๆ กลุ่มที่ออกเหรียญ ICO นี้ โดยประเภทของ ICO แบ่งเป็น 3 ประเภทคือ Utility Token, Security Token, และ Equity Token 

JIBEX ช่องทางใหม่การลงทุน

สำหรับการเปิดตัว JIBEX นั้น มีความตั้งใจจะพัฒนาให้เป็นเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่นที่มีความปลอดภัย มั่นคงและตอบสนองนักลงทุนได้ดีที่สุด เพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานจัดเก็บ จัดการ ลงทุน และแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลได้อย่างมั่นใจ ใช้งานง่าย พร้อมทั้งเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้และข่าวสารสำหรับนักลงทุนมือใหม่ และผู้ที่สนใจเกี่ยวกับการลงทุนเงินดิจิทัล รวมทั้งยังมีระบบความปลอดภัยเทียบเท่ากับธนาคารและสถาบันการเงิน และยังมีระบบการยืนยันตัวตน (KYC) ที่ได้มาตรฐานระดับสูงเพื่อให้นักลงทุนมั่นใจถึงระบบความปลอดภัยสูงสุด

โดยช่วงเริ่มต้น JIBEX จะเริ่มเปิดให้บริการ Cryptocurrency Wallet (JIBEX wallet) พร้อมเปิดให้ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น JIBEX ได้ทั้ง iOS และ Android ในวันที่ 26 เมษายนนี้ ซึ่งในช่วงแรกสามารถใช้เก็บเงินดิจิทัลได้ 5 สกุล ได้แก่ Bitcoin, Ethereum, Ripple, Bitcoin Cash, และ Litecoin และเร็วๆ นี้ JIBEX Wallet จะสามารถรองรับสกุลเงินดิจิทัลตัวท็อปอื่นๆ เพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ JIBEX ยังมีแผนเปิดให้บริการด้านอื่นๆ เพิ่มเติม ในวันที่ 26 มิถุนายนนี้ JIBEX จะเปิดให้บริการการเทรดสกุลเงินดิจิทัล (Exchange) ทั้งการเทรดสกุลเงินดิจิทัลระหว่างสกุลเงินดิจิทัลด้วยกันเอง และการเทรดระหว่างสกุลเงินดิจิทัลกับสกุลเงินบาท และในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ ก็จะมีการเพิ่มฟังก์ชั่นในการช่วยเทรดต่างๆ เช่น Robot Trade ซึ่งเป็นตัวช่วยเทรดอัจฉริยะให้นักลงทุนเทรดได้แม้กระทั้งเวลาหลับ เพราะตลาด Cryptocurrency วิ่งตลอด 24 ชั่วโมงไม่มีหยุด รวมทั้งจะพัฒนาระบบเพื่อรองรับการซื้อของออนไลน์ (e-commerce) โดยชำระผ่านสกุลเงินดิจิทัล และภายในต้นปี 2562 วางเป้าหมายที่จะเปิดให้บริการด้านการบริหารสินทรัพย์ (Wealth Management) ทั้งสินทรัพย์ Digital และ Non-Digital

“การเปิดตัว JIBEX ไม่ใช่เพียงแค่เป็นช่องทางการลงทุนให้กับลูกค้าเท่านั้น เรามีเป้าหมายที่จะให้ข้อมูล ความรู้เกี่ยวกับการลงทุนใน Cryptocurrency ด้วย ซึ่งเป้าหมายใหญ่สุดของ JIBEX คงไม่ใช่การแข่งขันในประเทศ แต่มองไปที่การแข่งขันระดับโลก เพราะตลาดนี้ถือว่ามีขนาดใหญ่มากและเป็นเวทีระดับโลก จึงเป็นเรื่องของประเทศไหนที่มีความพร้อมก็จะได้ ประเทศไหนที่ไม่มีความพร้อมก็จะเสีย และในฐานะที่ผมเป็นกรรมการบริหารสมาคมฟินเทคประเทศไทย เรามองภาพรวมว่าประเทศไทยมีความสามารถในการต่อสู้กับประเทศอื่นๆได้ ผู้เล่นในประเทศไทยเราต้องจับมือกันเป็นคู่ค้าหรือพาร์ทเนอร์ เพื่อแข่งขันกับต่างประเทศ ซึ่ง JIBEX เองก็มีความตั้งใจที่จะมาเป็นพาร์ทเนอร์ให้กับทั้งผู้ประกอบธุรกิจและนักลงทุนในเงินดิจิทัล ให้ประเทศไทยมีความได้เปรียบ”

พิเศษสุด! สมัครเป็นสมาชิกกับ JIBEX ก่อน 30 เม.ย. นี้! ฟรี! ค่าธรรมเนียมการเทรดเป็นระยะเวลา 45 วัน (จากปกติ 0.25% ของธุรกรรมการซื้อขาย) นับตั้งแต่วันที่เริ่มให้บริการการเทรด หรือ JIBEX Exchange ในวันที่ 26 มิถุนายนนี้! ไม่อยากพลาดโอกาสครั้งนี้ คลิกสมัครสมาขิกได้ที่ www.jib-ex.com หรือติดตามข่าวสารอัพเดทต่างๆ ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียด้านล่าง 

เว็บไซต์: www.jib-ex.com

Facebook: https://www.facebook.com/JIBExchange/

Youtube: JIBExchange  

Twitter: https://twitter.com/JIBExchange