AI เรียกศรัทธางบการเงิน

    1463

    หากเอ่ยถึงหุ้น AI หรือบมจ.เอเชียน อินซูเลเตอร์ เชื่อว่านักลงทุนหลายคนคงคุ้นเคยเป็นอย่างดี และยังคงมีรายย่อยและแมงเม่าอีกหลายรายติดอยู่กับหุ้นตัวนี้ หลังจากเมื่อราว 3-4 ปีก่อนได้ถูกตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ขึ้นเครื่องหมาย SP หยุดการซื้อขายไปพร้อมกับบริษัทลูกอย่างหุ้น AIE หรือ เอไอ เอนเนอร์จี เนื่องจากความไม่ชอบมาพากลของการปิดงบการเงินงวดปี 2557 และไม่ให้ความร่วมมือกับผู้สอบบัญชี

    วิบากกรรมงบการเงินลับลวงพราง

    AI ถือเป็นหุ้นที่น่าจับตามองจากการดำเนินธุรกิจผลิตลูกถ้วยไฟฟ้าเซรามิกที่ใช้ในระบบส่งและจำหน่ายกระแสไฟฟ้า โดยเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยเมื่อช่วงเดือนกันยายน 2547 ซึ่งมีราคา IPO ที่ระดับ 48.00 ต่อหุ้น ที่ราคาพาร์ 5.00 บาท โดย AI ถือเป็นหุ้นที่มีการซื้อขายคึกคักตัวหนึ่งในอดีต ซึ่งราคาหุ้นเคยปรับตัวขึ้นไปอยู่สูงถึงระดับกว่า 100 บาท ก่อนจะต้องมาเผชิญวิบากกรรมจากความไม่โปร่งใสของงบการเงิน จนราคาหุ้นดำดิ่งต่อเนื่อง และราคาปิดครั้งสุดท้ายอยู่ที่ระดับต่ำเตี้ยเรี่ยดินเพียง 1.52 บาท รวมทั้งได้มีการแตกพาร์จากระดับ 5.00 บาท มาอยู่ที่ระดับ 0.25 บาท

    ขณะที่ปัจจุบันยังมีรายย่อยถูกขังอยู่กับหุ้น AI อีกจำนวน 7,881 ราย โดยกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ยังคงเป็นตระกูล “ธารีรัตนาวิบูลย์” โดยปัจจุบันทั้งหุ้น AI และ AIE ยังอยู่ระหว่างการดำเนินการแก้ไขเหตุแห่งการเพิกถอนตามคำสั่งของทั้งตลท.และสํานักงานคณะกรรมการกํากับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ก.ล.ต. ซึ่งมีอยู่เพียงเรื่องเดียวคือการแก้ไขงบการเงินปี 2557 และยังไม่สามารถดำเนินการได้เป็นที่พอใจของทั้งตลท.และก.ล.ต.

    อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 30 เม.ย.ที่ผ่านมา ทาง AI ได้มีการ การชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลกระทบจากการแก้ไขงบการเงินประจําปี 2557 ต่อตลาดหลักทรัพย์ หลังจากที่ ก.ล.ต.ได้ออกคำสั่งให้ AI ปรับปรุงแก้ไขงบการเงินปี 2557 ให้ถูกต้องตามมาตรฐานบัญชี และให้ความร่วมมือกับผู้สอบบัญชี ซึ่งทาง AI ได้แจ้งว่าได้ปฏิบัติตามกฎหมายและประกาศที่เกี่ยวข้อง และนำส่งงบการเงินปี 2557 ฉบับแก้ไข โดยได้แก้ข้อผิดพลาดเรื่องผลกระทบต่องบการเงิน เป็นผลจากการเงินของ AIE รวมทั้ง AIE ก็ได้มีการแก้ไขข้อผิดพลาดแล้วเช่นกัน

    ธุรกิจเดินหน้าสร้างกำไรต่อเนื่อง

    แต่หากมาดูกันที่ผลประกอบการของ AI ย้อนหลังในช่วงปี 2558-2560 ที่ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ ก็ยังเห็นถึงการสร้างกำไรมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปี 2558 มีกำไรสุทธิ 177.86 ล้านบาท ปี 2559 มีกำไรสุทธิ 293.85 ล้านบาท และในปี 2560 มีกำไรสุทธิ 255.68 ล้านบาท ขณะที่ธุรกิจของ AI ในปัจจุบันนอกจากการผลิตลูกถ้วยไฟฟ้า ยังมีธุรกิจออกแบบ จัดหา และติดตั้งสถานีไฟฟ้าย่อย และสายส่งไฟฟ้าแรงส่ง รวมถึงการผลิตน้ำมันไบโอดีเซลจากน้ำมันปาล์ม

    คงต้องมารอดูกันว่าการแก้ไขข้อผิดพลาดของงบการเงินปี 2557 ของ AI ในครั้งนี้ จะสามารถสร้างความน่าเชื่อถือได้มากพอที่จะทำให้ตลท. และ ก.ล.ต. ปลดล็อกหุ้นให้กลับมาซื้อขายในตลาดหุ้นได้อีกครั้งหรือ เพราะเชื่อว่ารายย่อยจำนวน 7,881 รายที่ถูกขังอยู่ในหุ้น AI ต่างนั่งรอคอยด้วยใจระทึก