SCN ตอกหมุดรายได้พุ่ง30-40% ทุ่ม1.2พันล.ลุยโรงไฟฟ้ามินบู

212

มิติหุ้น – SCN เดินตามแผน บิ๊กบอส “ฤทธี กิจพิพิธ” ย้ำรายได้โตเข้าเป้า 30-40% ไม่รวมโครงการรถเมล์ NGV พร้อมดันธุรกิจขยายตัวทุกทิศทาง จัดหนักงบลงทุน 1.23 พันล้าน ลุยโรงไฟฟ้ามินบู รอรับทรัพย์เข้ามือต้นปี 62

 

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.สแกน อินเตอร์ หรือ SCN โดย ดร.ฤทธี กิจพิพิธ กรรมการผู้จัดการใหญ่ เปิดเผยว่า บริษัทยังคงเป้าหมายรายได้ปีนี้จะเติบโต 30-40% จากปีก่อน ซึ่งการเติบโตดังกล่าว ไม่นับรวมรายได้จากการดำเนินโครงการรถเมล์ NGV ที่เตรียมส่งมอบรถเมล์ส่วนที่เหลือให้แก่ ขสมก.อีก 389 คัน หากศาลปกครองมีคำสั่งยกเลิกคุ้มครองชั่วคราว ซึ่งบริษัทฯ จะรับรู้รายได้จากการดำเนินโครงการนี้ตามสัดส่วนการถือหุ้นในกลุ่มร่วมทำงาน SCN-CHO ทันที รวมถึงยังรับรู้รายได้จากการซ่อมบำรุงรถเมล์ NGV ของ ขสมก. เป็นระยะเวลา 10 ปีอีกด้วย

ย้ำรายได้โตทุกทิศทาง

ในส่วนของธุรกิจก๊าซธรรมชาติอัดสำหรับโรงงานอุตสาหกรรม หรือ iCNG จะทำยอดขายเติบโตได้เป็นอย่างดี จากการขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ ในกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม รวมถึงการเปิดสถานีก๊าซธรรมชาติ NGV สำหรับยานยนต์ให้ครบทั้ง 13 แห่ง ภายในปีนี้จากปัจจุบันที่มีอยู่ 7 แห่ง โดยคาดว่าจะทำยอดขายเฉลี่ย 400,000 กิโลกรัมต่อวัน รวมถึงมีรายได้จากการจำหน่ายน้ำมันภายใต้แบรนด์ ‘บางจาก’ และพื้นที่ค้าปลีกจำนวน 3 สถานี เข้ามาเพิ่มเติมอีกด้วย

ส่วนกลุ่มธุรกิจ EPC หรือ ธุรกิจออกแบบ ผลิต ติตตั้ง ซึ่งเป็นธุรกิจหลักที่อยู่ในกลุ่ม Non-Recurring Income นั้น บริษัทฯ คาดว่าจะมีมูลค่างานในมือที่รอรับรู้รายได้ Backlog เกือบ 1,000 ล้านบาท แบ่งเป็นมูลค่างานในปัจจุบัน 425 ล้านบาท และงานใหม่ที่จะช่วยเพิ่ม Backlog อีก 400 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้รายได้ในปีนี้

ตั้งรับผลตอบแทนโรงไฟฟ้ามินบู

ทั้งนี้บริษัทฯ ได้เซ็นสัญญาเข้าซื้อกิจการ บริษัท พลังงานเพื่อโลกสีเขียว (ประเทศไทย) จำกัด หรือ GEP Thailand เข้าซื้อถือหุ้นในสัดส่วน 30 % โดยใช้เงินลงทุนประมาณ 1,234.88 ล้านบาท เพื่อเข้าร่วมดำเนินโครงการพัฒนาและก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ขนาดกำลังผลิตไฟฟ้า 220 เมกะวัตต์ ที่เมืองมินบู ประเทศเมียนมา ซึ่งเป็นโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มูลค่าโครงการมากกว่า 10,000 ล้านบาท ที่แบ่งการพัฒนาออกเป็น 4 เฟส คาดก่อสร้างแล้วเสร็จและเริ่มจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) จำนวน 50 เมกะวัตต์ในเฟสแรกได้ภายในต้นปี 2562 โดยประเมินว่าโครงการนี้จะมีผลตอบแทนจากการลงทุน (IRR) ไม่ต่ำกว่า 10%

www.mitihoon.com