ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บล.เออีซี โดยฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้คาด SET Index มีความผันผวนสูงขึ้น เนื่องจากสหรัฐฯ ประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนอีก 1.6 หมื่นล้านบาท ขณะเดียวกัน แรงขายทำกำไร หลังดัชนีปรับขึ้นกว่า 138 จุด (โดยวัดจากระดับฐาน Low ที่ 1,584 จุด และ High ที่ 1,722 จุด หรือเพิ่มขึ้นราว 8.7% ในรอบ 1 เดือน) บวกกับ ดัชนีเริ่มเข้าใกล้แนวต้านสำคัญ Horizontal Line ที่ 1,725 จุด โดยมีแนวต้าน 1,725 จุด และมีแนวรับที่ 1,690 จุด
ด้านกลยุทธ์การลงทุนในวันนี้แนะนำ “ทยอยลดพอร์ตการลงทุน” ในหุ้นกลุ่ม Domestic Play ที่แนวโน้มกำไรยังโตสดใส ได้แก่ หุ้นกลุ่มโรงพยาบาลที่ได้รับอานิสงส์จากฤดูฝนในช่วงเดือน ก.ค.-ส.ค. บวกกับคาดกำไรช่วงไตรมาสที่ 2/2561 จะโตกว่าปีก่อน ได้แก่ BCH, CHG, EKH, RJH รวมถึง หุ้นกลุ่มอสังหาที่คาดกำไรช่วง ไตรมาสที่ 2/2561 จะโตกว่าปีก่อน ได้แก่ ANAN, QH, AP, SC, ORI และ หุ้นที่จ่าย Div. Yield สูงเกินปีละ 5% ได้แก่ TKS, KKP, MC
ด้านบล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) หรือ PST โดยนางสาวธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงเช้านี้แกว่ง Sideway Down เนื่องจาก การประกาศงบของบิริษัทจดทะเบียนบางกลุ่มที่ผลประกอบการออกมาต่ำกว่าคา ดขณะเดียวกันความกังวลจากปัจจัยภายนอกอย่างสงคราทางการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน หรือ โดยจีนประกาศจะตอบโต้หากสหรัฐขึ้นภาษีสินค้านำเข้าของจีนเป็น 25% จากเดิมที่เรียกเก็บ 10% ถึงแม้ว่า Sentiment ในต่างประเทศยังคงเป็นบวก แต่ก็ไม่สามารถทำให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยฟื้นตัวได้เต็มที่ โดยมีแนวต้าน 1,715 จุด และมีแนวรับที่ 1,690 จุด
สำหรับกลยุทธ์การลงทุน แนะนำเก็งกำไรที่ระดับ 1,700 บวกลบ 5-10 จุด รวมถึงเก็งกำไรหุ้นกลุ่ม ICT โดยมีหุ้นเด่น ได้แก่ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น หรือ TRUE ซึ่งไม่เข้าร่วมประมูลใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ สำหรับกิจการโทรคมนาคม คลื่นความถี่ 900 MHz เพื่อลดภาระต้นทุนในอนาคต แนะนำซื้อเก็งกำไร เป้าพื้นฐาน 7.1 บาท
