อันดับที่ 1 SABINA มั่นใจรายได้ปีนี้ตามเป้าโต 15% ลุยออกแคมเปญ-เปิดตัวพรีเซ็นเตอร์คนใหม่กระตุ้นยอดขาย
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ซาบีน่า หรือ SABINA โดยนายบุญชัย ปัณฑุรอัมพร กรรมการผู้จัดการ เปิดเผยว่า มั่นใจรายได้ปีนี้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้โต 15% จากปีก่อนที่ 2,679.12 ล้านบาท โดยในช่วงครึ่งปีแรกบริษัทมีรายได้จากการขาย 1,469.08 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 213.22 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 175.85 ล้านบาท โดยบริษัทมีการปรับโครงสร้างการผลิตที่ดีขึ้น ส่งผลให้ในปีนี้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 1 ล้านชิ้น/เดือน จากปีก่อนที่ 8 แสนชิ้น/ต่อเดือน ขณะเดียวกันบริษัทตั้งเป้า 5 ปี (ปี 62-66) รายได้จะมีอัตราการเติบโตปีละประมาณ 10-15% เนื่องจากบริษัทมีการออกแคมเปญใหม่ๆ มากระตุ้นตลาดอย่างต่อเนื่อง รวมถึงบริษัทเตรียมสิ้นค้าเพียงพอต่อความต้องการ และจะควมคุมสต๊อกสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ
อันดับที่ 2 ASIAN หั่นเป้ารายได้ปีนี้เหลือ 10% หลังราคากุ้ง-ปลาหมึกร่วง
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ห้องเย็นซีฟู้ด หรือ ASIAN โดนนาย เฮ็นริคคัส แวน เวสเทิร์นดรอป ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานบริหารสายการเงิน เปิดเผยว่า บริษัทปรับลดเป้ารายได้ปีนี้เหลือ 10% จากเดิมคาดว่าจะเติบโตราว 15% จากปีก่อน เนื่องจากได้รับผลกระทบในส่วนของราคากุ้งและปลาหมึกที่ปรับตัวลดลง เนื่องจากมีการแข่งขันในตลาดค่อนข้างสูง ทั้งนี้บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาและเจรจาซื้อกิจการ โดยจะมุ่งเน้นปยังธุรกิจที่จะช่วนสนับสนุนช่องทางการจัดจำหน่ายของบริษัท มูลค่าธุรกิจประมาณ 100-200 ล้านบาท ส่วนรายระเอียดและความชัดเจนนั้น ยังไม่สามารถประเมินได้ว่าจะสรุปในช่วงใด เพราะต้องศึกษารายละเอียดต่างๆ ให้ดีก่อน
อันดับที่ 3 MINT ฟาดกำไร 1.2 พันลบ. เพิ่มขึ้น 64% กูรูประสานดีกว่าคาดให้เป้า 44.75 บาท
มิติหุ้น-บมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล หรือ MINT แจ้งผลดำเนินงานไตรมาส 2/61 มีกำไรสุทธิ 1,205.29 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 64% จากช่วงเดียวกันปีก่อน เนื่องจากธุรกิจโรงแรมและธุรกิจจัดจำหน่ายและรับจ้างผลิตของบริษัทเติบโตอย่างแข็งแกร่ง รวมถึงรายได้ส่วนเพิ่มจากคอร์บิน แอนด์ คิง เงินปันผลรับอย่างมีนัยสำคัญ 359 ล้านบาท (ก่อนหักค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องและภาษีเงินได้จานวน 144 ล้านบาท) จากการลงทุนในเอ็นเอช โฮเทล กรุ๊ป และผลกำไรที่เกิดขึ้นครั้งเดียวจากการซื้อเบนิฮานาในราคาต่ำกว่ามูลค่ายุติธรรมจำนวน 121 ล้านบาท ตามมาตรฐานการบัญชีไทย ส่งให้งวด 6 เดือนบริษัท มีกำไรสุทธิ 2,925 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% จากช่วงเดียวกันปีด้านบทวิเคราะห์ บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบีที ประเทศไทย ให้ราคาเป้าหมายที่ 44.75 บาท
อันดับที่ 4 TRUE เด่นสุดหลังไม่เข้าร่วมประมูลคลื่น 900/1800 MHz กูรูแนะจับตาผลงานฟื้นปีนี้พลิกมีกำไรให้เป้าสูงสุด 8.35 บาท
บทวิเคราะห์บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) ระบุว่า ภายหลังจากที่ TRUE ประกาศไม่เข้าร่วมประมูลคลื่น 900 MHz และ คลื่น 1800 MHz ถือเป็นการช่วยปลดล็อคความกังวลทันที และทำให้ตลาดมองไปยังผลประกอบการที่มีแนวดน่มฟื้นตัวเด่นแทน จึงแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเหมาะสม 8.35 บาท/หุ้น เลือกเป็นหุ้นเด่นของกลุ่มด้านบทวิเคราะห์ บล.แมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุว่า ภายหลังจากที่ TRUE แถลงไม่เข้าร่วมประมูลทั้งคลื่น 900-1800 MHz จึงคาดว่าตลาดจะตอบรับเชิงบวก เพราะอยู่ในสถานะได้เปรียบที่สุดในกลุ่ม (ต้นทุนไม่เพิ่ม หนี้ไม่เกิด คลื่นเพียงพอ)ส่วนแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส2/61รายได้ยังเติบโตต่อเนื่อง จากธุรกิจมือถือ และจะบันทึกกำไรพิเศษหลังขายสินทรัพย์เข้ากองทุน DIF ก้อนใหญ่ไตรมาสนี้ เชื่อว่าราคามี Upside 18 % จากราคาปัจจุบัน
อันดับที่ 5 JAS กำไรโตระเบิด 560 % บุ๊กกำไร JASIF
มิติหุ้น บมจ.จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS แจ้งผลประกอบการในไตรมาส 2/2561 มีกำไรสุทธิ 3,644 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 560 % จากไตรมาส 2/60 ที่มีกำไรสุทธิที่ 552 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,092 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทบันทึกกำไรจากการขายเงินลงทุน ของกองทุนJASIF จำนวน 3,650 ล้านบาท แต่อย่างไรก็ตามบริษัทได้มีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 445 ล้านบาท และสำรองหนี้สงสัยจะสูญของ 3 BB จำนวน 63 ล้านบาท และสำรองประมาณการหนี้สินตามแผนฟื้นฟูกิจการของบริษัท 3 ล้านบาท และยังมีรายการบันทึก Deferred Tax ของบริษัทและบริษัทย่อย จำนวน 87 ล้านบาท
www.mitihoon.com
