ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.พีพี ไพร์ม หรือ PPPM โดยนายณสุ จันทร์สม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 62 คาดจะเริ่มพลิกฟื้นอย่างเด่นชัด หลังการปรับโครงสร้าง โดยตั้งเป้าหมายรายได้เติบโตอย่างมีเสถียรภาพที่ประมาณ 5-10% ขณะที่ธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายอาหารสัตว์เลี้ยงคาดมีทิศทางเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะธุรกิจอาหารกุ้งที่ปีนี้มียอดขายสูงถึง 2,000 ล้านบาท แต่ยอมรับบริษัทยังต้องแบกรับต้นทุนค่าเสื่อมการก่อสร้างโรงงานผลิตอาหารสัตว์แห่งใหม่ รวมถึงการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าในญี่ปุ่น
ส่วนแผนการขายโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม (Geothermo) ในญี่ปุ่น 15 โรง กำลังการผลิตรวม 15 เมกะวัตต์ มูลค่า 1,400 ล้านบาท ที่ได้ตกลงกับผู้ซื้อไปแล้ว คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จได้ภายในไตรมาส 4/61 นี้ หรือภายในไตรมาส 1/62 ซึ่งบริษัทยังเน้นให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการด้านการเงิน เพราะการลงทุนโครงการต่างๆ ต้องใช้เงินค่อนข้างมาก เพื่อเข้ามาเสริมการเติบโตของธุรกิจ โดยจะต้องมีการบริหารจัดการหนี้ เพื่อปรับปรุงอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ให้ลดลงจากปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 2.4 เท่า
ขณะเดียวกันบริษัทยังคงให้ความสำคัญกับธุรกิจไฟฟ้าและมองหาโอกาสในการลงทุนโครงการใหม่ๆ ต่อเนื่อง เพราะเป็นที่ไม่มีความผันผวนและมีรายได้มั่นคงเข้ามาต่อเนื่อง ซึ่งสามารถเข้ามาช่วยลดความผันผวนที่เกิดจากธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายอาหารกุ้งและปลา โดยสนใจศึกษาเพื่อเข้าลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้า Geothermol ในญี่ปุ่น และลงทุนเสากังหันโรงไฟฟ้าพลังงานลมเพิ่ม 20 ต้น จากปัจจุบันมีอยู่ทั้งหมด 7 ต้น โดยเบื้องต้นจะใช้งบลงทุนราว 700 ล้านบาท ซึ่งคาดจะเริ่มทยอยลงทุนได้ในปี 62 โดยในช่วง 2 ปีนี้ (62-63) คาดหวังจะเพิ่มกำลังการผลิตธุรกิจพลังงานไฟฟ้าอีกเท่าตัว
ส่วนการลงทุนอื่นๆในต่างประเทศ บริษัทได้เข้าไปลงทุนในโครงการคอนโดมิเนียม Riverside Tower Project ในเมืองดานัง ประเทศเวียดนาม จำนวน 180 ยูนิต โดยใช้งบลงทุนประมาณ 980 ล้านบาท โดยมีราคาขายเฉลี่ย 3,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ตร.ม. ซึ่งจะเปิดขายได้ช่วงปลายปีนี้ และจะรับรู้เป็นส่วนแบ่งกำไรเข้ามาในปี 62 และบริษัทยังคงมองหาโอกาสในการลงทุนในต่างประเทศที่ไม่จำกัดเฉพาะธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และเน้นในกลุ่ม CLMV ซึ่งคาดหวังผลตอบแทนจากการลงทุนไม่ต่ำกว่า (IRR) 15% โดยที่การลงทุนใหม่ๆ จะเริ่มชัดเจนช่วงในครึ่งหลังปี 62
www.mitihoon.com
