TTA เปิดแผนปีหน้า รายได้โต 10-12% ควักเงิน 36 ล้านเหรียญฯ ซื้อกองเรือเสริมแกร่ง

71

มิติหุ้น – TTA ปักธงรายได้ปีหน้าโต 10-12% ตามความต้องการใช้เรือเพิ่ม-รับทรัพย์จาก Backlog เพียบ เตรียมงบ 32-36ล้านเหรียญสหรัฐ ใช้ซื้อเรือเพิ่ม 2 ลำ ขนาดรวม 1.16 แสนเดทเวทตัน

ผู้สื่อข่าว”มิติหุ้น”รายงานว่า บมจ. โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ หรือ TTA  โดยนายเฉลิมชัย มหากิจศิริ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เผยว่า บริษัทคาดรายได้ปี 62 โต 10-12% โดยมาจากธุรกิจขนส่งทางเรือ และ ธุรกิจบริการนอกชายฝั่ง ซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วนรายได้รวมกันอยู่ที่ 60-65% ของรายได้รวมแล้ว นอกจากนั้นยังมีธุรกิจเคมีภัณฑ์เพื่อการเกษตร และกลุ่มการลงทุน

โดยธุรกิจขนส่งทางเรือจะเติบโต โดยมองอัตราค่าระหว่างเรือในปี 62 ดีกว่า หรือทรงตัวจากปีนี้ 11,529 เหรียญสหรัฐ/วัน/ลำ เนื่องจากอุปสงค์และอุปทานมีความสมดุล ทั้งนี้ ประเมินว่าในปี 62 ปริมาณขนส่งสินค้าเทกองจะเติบโต 2.4% และเมื่อเทียบปริมาณกับระยะทางจะเติบโตขึ้น 2.9%

นอกจากนี้บริษัทมีแผนซื้อเรือมือ 2 เพิ่ม 2 ลำ โดยราคารวมอยู่ที่ 32-36 ล้านเหรียญสหรัฐ ขนาดรวม 1.16 แสนเดทเวทตัน (DWT) จากปัจจุบันบริษัทมีกองเรือรวม 21 ลำ อายุการใช้งาน 11.46 ปี และมีขนาดบรรทุกเฉลี่ย 55,285 เดทเวทตัน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเรือประเภทเรือแฮนดี้แมกซ์ และซุปราแมกซ์ในการขนส่งถ่านหิน, แร่, ซีเมนต์, ปุ๋ย, สารเคมี และ ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรต่างๆ

สำหรับธุรกิจบริการนอกชายฝั่งปี 62 จะพลิกกลับมามีกำไร เพราะบริษัทจะมีการเดินเรือครบ 7 ลำ ซึ่งจะไม่มีการนำเข้าซ่อมบำรุงแต่อย่างใด จากปีนี้มีการนำเรือเข้าซ่อมบำรุง 3 ลำ ในช่วงไตรมาส 1 และ 2 ที่ผ่านมา โดยปัจจุบันกลุ่มธุรกิจบริการนอกชายฝั่งมีมูลค่าสัญญาให้บริการที่รอส่งมอบ (Backlog) ประมาณ 129 ล้านเหรียญสหรัฐ (ไม่รวมการรับรู้ธุรกิจขุดเจาะ) โดยได้ทยอยเริ่มทำงาน และรับรู้รายได้ปีนี้ 17% และ ปี 62 ที่ 83%

ทางด้านธุรกิจขุดเจาะเรือขุดเจาะ (jack-up drilling rigs) สเปคสูง จำนวน 3 ลำ ดำเนินงานภายใต้บริษัทร่วมแห่งหนึ่ง มีอัตราการใช้ประโยชน์ของเรือสูงถึง 100% และ เรือทั้ง 3 ลำ (จาก 4 ลำ) มีสัญญาทำงานในตะวันออกกลางจนถึงปี 62 โดยหวังว่าจะได้รับการต่อสัญญาเพิ่ม อีกทั้ง บริษัทมีแผนลดสัดส่วนงานด้านการขุดเจาะลง เนื่องจากราคาน้ำมันผันผวน และต้นทุนในการขุดเจาะต่อ 1 แท่ง สูงถึง 400 ล้านเหรียญสหรัฐ ตลอดจนการแข่งขันที่รุนแรง

ส่วนธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มที่ทาง PHC เป็นผู้รับสิทธิแฟรนไชส์พิซซ่าฮัทเพียงรายเดียวในประเทศไทย มีสาขาทั้งหมด 126 สาขาทั่วประเทศ เพิ่มขึ้น 18 สาขา จากต้นปีที่ผ่านมา และบริษัท สยามทาโก้ จำกัด (STC) ยังได้รับสิทธิในการเข้าทำสัญญาเฟรนไชส์ของทาโก้เบลล์ (Taco Bell) เฟรนไชส์อาหารเม็กซิกันที่มีชื่อเสียงชั้นนำระดับโลกภายใต้บริษัทยัมแบรนด์สอิงค์ เบื้องต้นมีแผนเปิดสาขาแรกในช่วงปลายเดือน ธ.ค.นี้ หรือ ช้าสุดต้นเดือน ม.ค. 62