DOD แจกโบนัสส่งท้ายปี จ่ายปันผล 0.44 บาทต่อหุ้น เตรียม XD วันที่ 2 ม.ค 62   ไฟเขียวปิดดีลเทกโอเวอร์ PCCA จ่อขึ้นแท่นผู้นำธุรกิจเพื่อความงามและสุขภาพครบวงจร

181

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ. ดีโอดี ไบโอเทค หรือ DOD ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีส่วนประกอบหลักมาจากสารสกัดจากธรรมชาติในรูปแบบการรับจ้างพัฒนาและผลิต (ODM) ให้บริการครบวงจรที่ได้รับมาตรฐานระดับสากล โดยนางสาวศุภมาส อิศรภักดี  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล งวดวันที่ 1 เม.ย.ถึงวันที่ 30 ก.ย.2561 ในอัตราหุ้นละ 0.44 บาท ทั้งนี้ เพื่อเป็นการตอบแทนผู้ถือหุ้นที่มีความเชื่อมั่น และไว้วางใจในบริษัทฯ เสมอมา และตอกย้ำสถานะทางการเงินของบริษัทฯ ยังแข็งแกร่ง

โดยจะเห็นได้จากอัตราส่วนสภาพคล่องของบริษัทฯ ยังสูงถึง 18.2 เท่า ขณะที่อัตราส่วนหนี้สินต่อผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 0.04 เท่า โดยกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล(XD) วันที่ 2 ม.ค.2562

นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ยังมีมติอนุมัติเข้าซื้อหุ้นสามัญของ บริษัท พีซีซีเอ แล็บบอราเทอรี่ จำกัด (PCCA) โรงงานผู้ผลิตเครื่องสำอาง และสกินแคร์ ในรูปแบบรับจ้างผลิต (OEM) แบบครบวงจร ตั้งแต่การพัฒนาสูตร การวิจัยและผลิตเครื่องสำอาง และสกินแคร์ ออกแบบฉลากสินค้าบรรจุภัณฑ์ รวมถึงการยื่นคำขอจดแจ้งผลิตกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) โดย PCCA มีโรงงาน ตั้งอยู่บนพื้นที่ 29 ไร่ 2 งาน 89 ตารางวา ที่อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี และ อาคารสำนักงานใหญ่ 6 ชั้น พร้อมห้องปฎิบัติการวิจัย พื้นที่ 182 ตารางวา ตั้งอยู่บน ถนนสตรีวิทยา 2 เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ

“การซื้อ PCCA จะเข้ามาต่อยอดจิ๊กซอว์ทางธุรกิจ ในการขยายพอร์ตการผลิตสินค้ากลุ่มความงามและสุขภาพ เนื่องจาก DOD และ PCCA  ดำเนินธุรกิจรูปแบบใกล้เคียงกัน และยังมีฐานลูกค้าในกลุ่มประเภทเดียวกัน ดังนั้น หลังจากนี้จะได้เห็นกลุ่มลูกค้าของ PCCA หันมาจ้างผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ขณะเดียวกัน ลูกค้า DOD ที่เคยจ้างผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ก็จะหันมาจ้างผลิตเครื่องสำอาง และสกินแคร์เช่นกัน ดังนั้น การลงทุนครั้งนี้ นอกจาก จะเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่ม และสร้าง Synergy ทางธุรกิจแล้ว ยังเป็นการเสริมศักยภาพความแข็งแกร่ง และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เพื่อต่อยอดและขยายไลน์ธุรกิจในอนาคต  พร้อมทั้งยังผลักดันให้ DOD ก้าวเป็นผู้นำในธุรกิจเพื่อความงามและสุขภาพแบบครบวงจร” นางสาวศุภมาส กล่าว

สำหรับการจัดตั้งโรงสกัดของ DOD จะเป็นบริษัทเอกชนแห่งแรกๆ ที่ยกระดับมาตรฐานสารสกัดไทย ให้เทียบเท่ากับมาตรฐานสากล  เบื้องต้น โรงสกัดดังกล่าวจะสามารถเดินเครื่องได้ภายในไตรมาส 3/2562 ซึ่งถือว่าแล้วเสร็จเร็วกว่ากำหนดเดิม จากเดิมที่คาดว่าจะเสร็จภายในปี 2563