5 อันดับข่าวเด่นมิติหุ้นภาคบ่าย

142

อันดับที่ 1 PTTGC เร่งพัฒนาเม็ดพลาสติกย่อยสลาย ต่อยอดไบโอคอมเพล็กซ์2

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล หรือ PTTGC ผู้ประกอบการโรงกลั่นและปิโตรเคมี โดยนายปฏิภาณ สุคนธมาน ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ กลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีขั้นปลาย กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการพัฒนาพอลิแลกติกแอซิด (Poly lactic acid) หรือ PLA โดยปัจจุบันดำเนินการวิจัย 2 แห่งที่จ.ระยอง และวิจัยที่ประเทศสหรัฐอเมริกาภายใต้บริษัท เนเจอร์เวิร์ค จำกัด ที่ PTTGC ถือหุ้น 50% คาดว่าการวิจัยแล้วเสร็จปลายปี 62 โดยภายหลังจากการวิจัยแล้วเสร็จจะดำเนินต่อยอดลงทุนไบโอคอมเพล็กซ์เฟส2 เพื่อผลิตเม็ดพลาสติกจากน้ำตาลและกากอ้อยที่เป็นเม็ดพลาสติกมัลติเคิล ยูทที่สามารถย่อยสลายได้ง่าย (ไบโอดิเกทดิเบิ้ล) ไปทดแทนการผลิตเม็ดพลาสติกซิงเกิ้ล ยูส โดยตั้งเป้าหมายทดแทนภายใน 5 ปี จากปัจจุบันนี้มีการผลิตอยู่ 1.5 แสนตันจากกำลังการผลิตทั้งหมด 2 ล้านตันต่อปี

อันดับที่ 2 OCEAN เซ็น MOU ร่วมกับ BCP ขยายตลาดไบโอดีเซลหนุนรายได้โต

มิติหุ้น-บมจ.โอเชี่ยน คอมเมิรช (OCEAN ) ลงนามความร่วมมือ(MOU) บริษัท บางจากไบโอฟูเอล จำกัด (บางจากไบโอฟูเอล) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยในเครือของ บมจ.บางจาก (BCP) ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำมันไบโอดีเซล และเป็นคู่ค้ารายใหญ่ซึ่งซื้อน้ำมันปาล์ม CPOA จากบริษัทฯ เพื่อร่วมกันศึกษาพัฒนาธุรกิจและสร้างความเป็นไปได้ในการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ไบโอดีเซล B7 – B10 (รวมถึง B20) รวมทั้งร่วมกันพิจารณาเพิ่มช่องทางการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ไบโอดีเซลดังกล่าว ซึ่งบริษัทมีศักยภาพโดยมีเครือข่ายพันธมิตรทั้งเกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน และโรงสกัดที่ครอบคลุมหลากหลายจังหวัดในภาคใต้ อาทิเช่น กระบี่ สุราษฎ์ธานี พังงา ตรัง และนครศรีธรรมราช รวมมีกำลังการผลิตรวมราว 1,510 ตันทะลายต่อชั่วโมง หรือมีปริมาณผลปาล์มวันละ 16,610 ตัน สามารถผลิตน้ำมันปาล์มได้ 2,990 ตัน โดยมีสมาชิกมากกว่า 60,000 ราย และมีพื้นที่เพาะปลูกมากกว่า 700,000 ไร่ ซึ่งเครือข่ายของบริษัทฯจะช่วยสร้างความมั่นคงให้กับบางจากไบโอฟูเอลด้านการจัดหาวัตถุดิบเพื่อนำไปพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่มตามนโยบายเทคโนโลยีสีเขียวของบางจาก นอกจากนี้ยังช่วยแก้ไขปัญหาด้านราคาและปริมาณปาล์มล้นตลาด

อันดับที่ 3 สรรพากรจัดเก็บภาษีไตรมาส 1 ปีงบ 62 (ต.ค.-ธ.ค.61) ทะลุเป้า 7%

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า กรมสรรพากร โดย ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดี เผยว่า ผลการจัดเก็บภาษีสรรพากรสะสมในช่วงไตรมาส 1 ปีงบประมาณ 2562 (ต.ค. – ธ.ค.61) เก็บได้ 412,391 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อน 41,709 ล้านบาท หรือ 11.3% และสูงกว่าประมาณการจัดเก็บภาษีสรรพากรตามเอกสารงบประมาณ 28,006 ล้านบาท หรือ 7.3% สาเหตุที่การจัดเก็บภาษีสรรพากรสูงกว่าประมาณการ เนื่องจากการขยายตัวของการนำเข้าและราคาน้ำมันเฉลี่ยที่สูงขึ้นได้ส่งผลดีต่อการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากการนำเข้า อีกทั้งมีปัจจัยสนับสนุนอื่น ๆ ที่ส่งผลให้การจัดเก็บภาษีสรรพากรเพิ่มขึ้น ได้แก่  การฟื้นตัวของเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง การลงทุนภาคเอกชนขยายตัวดีตามแนวโน้มโครงการลงทุนภาครัฐและภาคเอกชนที่เพิ่มขึ้น  ยอดขายอสังหาริมทรัพย์และการโอนจำหน่ายรถยนต์ที่ขยายตัวดีต่อเนื่อง รวมถึงการเพิ่มขึ้นของเงินเดือนภาคเอกชนและจำนวนผู้มีงานทำ เป็นต้น

อันดับที่ 4 สบน.แจง ไทยกำหนดสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP ไม่เกิน 60% เป็นระดับที่เอื้อต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ โดยนางจินดารัตน์ วิริยะทวีกุล ผู้อำนวยการ สำนักนโยบายและแผน เผยว่า การกำหนดสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ที่ไม่เกินร้อยละ 60 ในปัจจุบัน สอดคล้องกับการกำหนดเพดานหนี้สาธารณะต่อ GDP ในระดับสากล ไม่ว่าจะเป็นของสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะต่างประเทศ องค์กรระหว่างประเทศ และสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ  ปัจจุบัน รัฐบาลยังจำเป็นต้องดำเนินนโยบายการคลังแบบขยายตัวเพื่อรองรับการลงทุนในโครงการโครงสร้างพื้นฐานด้านเศรษฐกิจและสังคม และเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ รวมทั้งเป็นการเพิ่มความยืดหยุ่นและพื้นที่ทางการคลังกรณีเกิดวิกฤติเศรษฐกิจหรือความผันผวนในระบบเศรษฐกิจโลก ทั้งนี้ จากการประมาณการในระยะ 5 ปีข้างหน้า พบว่า ระดับหนี้สาธารณะต่อ GDP ก็ยังคงอยู่ภายใต้เพดานร้อยละ 60

อันดับที่ 5 ครม.ไฟเขียว นำค่าใช้จ่ายซ่อมบ้าน-รถ ที่เสียหายจากพายุโซนร้อน “ปาบึก” หักลดหย่อนภาษีได้

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า นายปิ่นสาย สุรัสวดี รักษาการในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์การจัดเก็บภาษี
ในฐานะโฆษกกรมสรรพากร เผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติเห็นชอบมาตรการภาษีเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพายุโซนร้อน “ปาบึก” และเพื่อเป็นการบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายสำหรับผู้ประสบภัย โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1.กรณีซ่อมบ้าน ให้ผู้มีเงินได้สามารถใช้สิทธิหักลดหย่อนภาษีสำหรับจำนวนเงินที่ได้จ่ายเป็นค่าซ่อมแซม
หรือค่าวัสดุอุปกรณ์ในการซ่อมแซมอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นอาคาร หรือที่อยู่ในเขตอาคารหรือห้องชุดในอาคารชุด
หรือทรัพย์สินที่มีการประกอบติดตั้งกับตัวอาคารหรือในเขตอาคารหรือห้องชุดในอาคารชุดซึ่งได้รับความเสียหายจากเหตุพายุฯ ที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ ตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 100,000 บาท ทั้งนี้ ค่าซ่อมบ้านและค่าซ่อมรถดังกล่าว ต้องอยู่ในพื้นที่ที่ทางราชการประกาศให้เป็นพื้นที่ประสบภัย  และการจ่ายค่าซ่อมภายในวันที่ 3 มกราคม 2562 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2562 โดยให้ใช้สำหรับการยื่นแบบ ภ.ง.ด.90/91 ประจำปีภาษี 2562 ที่จะต้องยื่นรายการภายในวันที่ 31 มีนาคม 2563

www.mitihoon.com