KKP ปรับกลยุทธ์เน้นมาร์จิ้น – วางเป้าสินเชื่อโต 8% คุม NPL ไม่เกิน 4%

260

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) หรือ KKP วางเป้าหมายผลประกอบการปี 2562 ยังเติบโตต่อเนื่องจากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 6,041.98 ล้านบาท โดยนายอภินันท์ เกลียวปฏินนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เผยว่า ธนาคารตั้งเป้าหมายสินเชื่อปีนี้เติบโต 8% หรือคิดเป็นยอดปล่อยสินเชื่อใหม่ราว 1.6-1.8 หมื่นล้านบาท ซึ่งแม้จะเติบโตลดลงจากปี 2561 ที่สินเชื่อเติบโต 18% แต่ธนาคารจะเน้นกลุ่มสินเชื่อที่มาร์จิ้นสูง และมีความเสี่ยงต่ำ

ทั้งนี้ ธนาคารยังคงให้ความสำคัญกับสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ ทั้งรถยนต์ใหม่ รถยนต์มือสอง และสินเชื่อจำนำทะเบียน เนื่องจากยังเป็นกลุ่มสินเชื่อที่สร้างผลตอบแทนค่อนข้างสูง ซึ่งปัจจุบันมีพอร์ตสินเชื่อคงค้างของสินเชื่อเช่าซื้อประมาณ 1.4 แสนล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 47% ของพอร์ตสินเชื่อรวม แต่คาดว่าสัดส่วนสินเชื่อเช่าซื้อในปีนี้จะลดลงเหลือ 45% เนื่องจากสินเชื่อประเภทอื่นๆก็ยังมีแนวโน้มเติบโตค่อนข้างสูง โดยเฉพาะในกลุ่มสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ และสินเชื่อเพื่อการลงทุน หรือ Lombard Loan

“เรายังคงต้องการเห็นกำไรสุทธิปีนี้ทำได้ดีกว่าปีก่อน แม้เราจะตั้งเป้าสินเชื่อโตแค่ 8% ลดลงจากปีก่อนที่โต 18% แต่เพราะปีก่อนสินเชื่ออสังหาฯเติบโตแรงมาก สินเชื่อบรรษัทก็เติบโตกว่า 50% ซึ่งปีนี้เราคงมาปรับกลยุทธ์ด้วยการเน้นสินเชื่อที่สร้างมาร์จิ้นมากขึ้น จะเห็นว่าสินเชื่อปีก่อนโต 18% แต่มาร์จิ้นโตแค่ 5% ถือว่าไม่น่าพอใจเท่าไหร่ แต่เราคงไม่ได้กำหนดว่าสินเชื่อแต่ละกลุ่มจะต้องโตเท่าไหร่ คงดูไปที่ภาวะตลาดในแต่ละช่วงมากกว่า” นายอภินันท์ กล่าว

สำหรับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ในปีนี้ตั้งเป้าควบคุมไม่ให้เกิน 4% ลดลงจากปีก่อนที่อยู่ในระดับสูงกว่า 4% โดย NPL ส่วนใหญ่ของธนาคารจะกระจุกตัวอยู่ที่ลูกค้ารายใหญ่บางราย ซึ่งคาดว่าจะสามารถดูแลและขอความร่วมมือกับลูกค้าได้ อย่างไรก็ตาม ธนาคารยังคงเป้าหมายการตั้งสำรองหนี้ในปีนี้อยู่ในระดับใกล้เคียงกับปีก่อนที่ราว 1 หมื่นล้านบาท เพื่อเป็นการรองรับความเสี่ยงที่ยังมีอยู่เป็นจำนวนมากในอนาคต โดยเฉพาะภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัว รวมถึงต้องการเพิ่มระดับอัตราส่วนการตั้งสำรองต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ (Coverage Ratio)

ในส่วนของธุรกิจ Private Bank ธนาคารวางเป้าหมายที่จะต่อยอดสินทรัพย์ภายใต้การแนะนำ หรือ AUA ที่มีอยู่กว่า 6.5 แสนล้านบาท โดยธนาคารจะพยายามรักษาจุดแข็งในเรื่องการนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆให้กับลูกค้า เช่น บริการการลงทุนต่างประเทศ การลงทุนใน Private Markets หรือการนำเสนอบัญชีเงินฝากเพื่อการลงทุนที่ให้ดอกเบี้ยสูงเหมือนเงินฝากประจำ รวมถึงผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่มีความซับซ้อนและตอบโจทย์การลงทุนได้หลากหลาย เช่น Structured Notes

www.mitihoon.com