ปรับพอร์ตเน้นหุ้นกลุ่มผู้ผลิตไฟฟ้า ปิโตรเคมี และถือ”ทองคำ” รับตลาดผันผวน

119

                ก่อนเริ่มเข้าสู่เดือนมีนาคม สัปดาห์สุดท้ายของเดือนกุมภาพันธ์นี้จะเป็นสัปดาห์ทำการที่มีหลายประเด็นน่าสนใจอย่างมากทั้งในและต่างประเทศและจะเป็นสถานกาณ์ที่ทำให้การลงทุนค่อนข้างจะเจอความผันผวนอย่างมาก

เริ่มกันที่การเจรจาการค้าของสหรัฐฯกับจีนล่าสุดได้ผลออกมาค่อนข้างเป็นบวก ประธานาธิบดี ทรัมป์ ระบุว่าอาจจะมีการเลื่อนการเก็บภาษีนำเข้าจากจีนไปอีก 1 เดือน แต่ประเด็นสำคัญที่ตลาดจับตามองมากกว่าคือ การเจรจาเรื่อง การละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ที่ถือว่ามีผลต่อเศรษฐกิจของจีนมาก โดยตลาดกำลังต้องติดตามการเจรจาประเด็นนี้ในครั้งต่อไปที่รัฐฟลอลิดาในช่วงเดือนหน้า

ขณะเดียวกันในสัปดาห์นี้ ในวันที่ 27 – 28 ก.พ. จะมีการพบปะกันของนายคิม จอง อึน กับโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ประเทศเวียดนาม ซึ่งเป็นการประชุมกันที่ทั่วโลกให้ความสนใจโดยเฉพาะเรื่องการอาวุธนิวเคลียร์และในข้อตกลงอื่นๆ

อีกประเด็นสำคัญซึ่งเป็นปัจจัยในประเทศ คือเรื่องการตัดสินยุบพรรคการเมืองในช่วงปลายสัปดาห์นี้ หากเกิดการยุบพรรคจริงในช่วงที่กำลังดำเนินการเลือกตั้ง อาจส่งผลต่อบรรยากาศการลงทุนได้ รวมถึงการแข็งค่าของเงินบาท หลังเงินลงทุนต่างประเทศ (Fund Flow) ไหลเข้ามาในตลาดเกิดใหม่รวมทั้งไทย หลังจากการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ล่าสุดมีทิศทางชะลอการขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ ทำให้เงินดอลลาร์อ่อนค่า ซึ่งต้องติดตามดูหากเงินบาทแข็งค่าต่อเนื่องจะมีผลกระทบต่อภาคการส่งออกและกระทบไปถึงการเติบโตของ GDP ไทยได้  อีกทั้งและรายงานผลประกอบการไตรมาส 4 ของตลาด (ที่จะสิ้นสุดในสัปดาห์นี้) ที่รายงานออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาดทั้ง YoY และ QoQ  เป็นปัจจัยในประเทศที่ทำให้นักลงทุนชะลอการลงทุน

ดังนั้นโดยรวมแล้ว KTBST จึงแนะนำการลงทุนว่า ด้วยการเปลี่ยนแปลงของทิศทางการลงทุนที่รวดเร็วจนจับจังหวะการลงทุนได้ยาก การลงทุนจึงต้องปรับพอร์ตให้รวดเร็วตามไปด้วย ซึ่งเราจะเห็นนักลงทุนต่างประเทศซื้อขายมีการซื้อและขายที่ค่อนข้างเร็ว แนวต้านของ SET Index ในช่วงสั้นนี้มองที่ระดับ 1,680 จุด นักลงทุนไทยปรับกลยุทธ์โดยเน้นลงทุนในหุ้นรายตัวที่มีปัจจัยบวกมากขึ้น (Selective buy ) ซึ่ง KTBST แนะนำหุ้น 2 กลุ่มหลัก คือ กลุ่มผู้ผลิตไฟฟ้าและปิโตรเคมี และแนะนำถือสินทรัพย์ปลอดภัย เช่น ทองคำ มากขึ้น เพื่อป้องกันความเสี่ยง

ทิศทางการลงทุนที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว นักลงทุนต้องติดตามข่าวสารสำคัญๆอย่างใกล้ชิดรวมทั้งสามารถติดตามบทวิเคราะห์และคำแนะนำการลงทุนจาก KTBST ที่จะนำแนะนำกลยุทธ์การลงทุนเพื่อรับมือกับสถานการณ์ต่างๆอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้นักลงทุนยังขอคำแนะนำการลงทุนอื่นๆเพิ่มเติมจากที่ปรึกษาการลงทุนของ KTBST ได้ตลอดเวลานะครับ หรือติดต่อได้ที่  02 -648 1111

ติดตามข่าวสารการลงทุนได้จาก ”มุมความรู้”  https://www.ktbst.co.th/th/knowledge.php

โดยชาตรี  โรจนอาภา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์และพัฒนาผลิตภัณฑ์ 

บล. เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (KTBST)

 

www.mitihoon.com