ANAN ยอดขายQ1/62ทะลุเป้า LVT ใหม่ไม่ระคายผิว (12/04/62)

233

มิติหุ้น – ANAN ยอดขายไตรมาส 1/62 ทะลุ 4.8 พันล้านบาท จากการทยอยโอนยอดขายในมือ พร้อมเตรียมเปิด 4 โครงการใหม่ในไตรมาส 2/62 จับมือ “มิตซุย” ปั้นโครงการใหญ่ย่านสะพานควาย มูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท ด้านโบรกฯเชียร์ “ซื้อ” ANAN เคาะเป้าราคา 6.00 บาท ส่องกำไรปี 62 เติบโต 18% จากปีก่อน มาตรการ LTV ไม่กระทบ

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ. อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ หรือ ANAN โดยนายชัยยุทธ ชุณหะชา ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงิน เผยว่า ภาพรวมธุรกิจในช่วงไตรมาส 1/62 เติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยสามารถทำยอดขายได้มากกว่า 4,800 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ถึง 19% แม้ในช่วงไตรมาสแรกบริษัทจะไม่มีการเปิดตัวโครงการใหม่ แต่การเติบโตของยอดขายมาจากการขายโครงการเดิมที่มีอยู่ในมือเป็นหลัก ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า

ปิดตัวโครงการใหม่มูลค่า 38,000 ล.

อย่างไรก็ตาม ในช่วงไตรมาส 2/62 บริษัทเตรียมเปิดโครงการใหม่ 4 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 13,000 ล้านบาท โดยโครงการสำคัญคือ ไอดีโอ คิว พหล-สะพานควาย คอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีสะพานควาย (0 เมตร) บนที่ดินขนาดประมาณ 5 ไร่ มูลค่าโครงการประมาณ 10,000 ล้านบาท เป็นโครงการร่วมทุนกับมิตซุย ฟูโดซัง และเป็นโครงการไฮไลท์ในปีนี้ ซึ่งมีมูลค่าโครงการสูงที่สุดตั้งแต่บริษัทพัฒนาโครงการมา

ขณะที่ในปี 62 บริษัทมีแผนเปิดโครงการใหม่ 10 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 38,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 42% จากปีก่อน แบ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียมจำนวน 8 โครงการ เป็นโครงการร่วมทุนกับมิตซุย ฟูโดซัง 7 โครงการ และแนวราบ 2 โครงการ โดยตั้งเป้ายอดขายปี 62 ไว้ที่ 36,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% จากปีก่อนที่มียอดขาย 31,500 ล้านบาท และตั้งเป้ายอดโอนเติบโต 9% จากปีก่อนที่มียอดโอน 36,000 ล้านบาท

โบรกฯ ส่องกำไรเติบโต 18%

ด้านนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเชีย เวลท์ กล่าวว่า ฝ่ายวิจัยยังคงแนะนำ “ซื้อ” ANAN ราคาเป้าหมาย 6.00 บาท แม้กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะได้รับผลกระทบจากมาตรการ LVT แต่มองว่า ANAN จะได้รับผลกระทบในวงจำกัด จากจุดเด่นในเรื่องของทำเลที่ตั้งตัวโครงการที่อยู่ติดกับสถานีรถไฟฟ้า รวมทั้งโครงการของ ANAN เป็นตัวเลือกที่ดีของกลุ่มลูกค้าจีนที่ยังมีกำลังซื้อในระดับสูง ขณะที่ ANAN ได้มีการกระจายการลงทุนเพื่อเพิ่มสัดส่วนรายได้ประจำ ซึ่งมีการลงทุนในธุรกิจเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์จำนวน 5 แห่ง และจะเริ่มรับรู้รายได้ในปี 64 ประมาณ 1,800 ล้านบาทต่อปี ในส่วนของผลประกอบการปี 62 ประเมินกำไรสุทธิเติบโต 18% จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 2,419 ล้านบาท