กรุงศรีรายงานกำไรสุทธิ 1.27 หมื่นลบ. ในไตรมาส 1/62 เพิ่มขึ้น 104.9% จากไตรมาส 1/61

153

 

            ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAY และบริษัทในเครือ รายงานผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งในไตรมาส 1/2562 ด้วยกำไรสุทธิรายไตรมาสสูงสุดจำนวน 12.พันล้านบาท เพิ่มขึ้นสูงถึง 104.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีปัจจัยขับเคลื่อนหลักมาจากการเติบโตของรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยซึ่งเพิ่มขึ้น 95.6% จากการบันทึกกำไรจากการขายหุ้น 50% ในบริษัท เงินติดล้อ จำกัด

            สรุปผลประกอบการและฐานะการเงินที่สำคัญในไตรมาส 1/2562 ได้แก่ กำไรสุทธิ จำนวน 12.พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 104.9% จากไตรมาส 1/2561 และเพิ่มขึ้น 108.5% จากไตรมาส 4/2561 หากไม่รวมกำไรจากการขายเงินติดล้อและค่าใช้จ่ายการชดเชยเกษียณอายุตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงานฉบับใหม่ กำไรสุทธิอยู่ที่ 6.9 พันล้านบาท ซึ่งเป็นกำไรสุทธิรายไตรมาสที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยเพิ่มขึ้น 11.5% จากไตรมาส 1/2561 และเพิ่มขึ้น 13.4% จากไตรมาส 4/2561  

เงินให้สินเชื่อ เพิ่มขึ้น 2.3% คิดเป็นจำนวน 37.พันล้านบาท เมื่อเทียบกับ ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2561 โดยมีการเติบโตจากสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ สินเชื่อเพื่อธุรกิจขนาดใหญ่ สินเชื่อเพื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) และสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย   เงินรับฝาก เพิ่มขึ้น 2.7% หรือจำนวน 3.9 หมื่นล้านบาท เมื่อเทียบกับ ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2561

ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) อยู่ที่ 3.79% ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 3.67% ในไตรมาส 1/2561 ขณะที่รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย เพิ่มขึ้น 95.6% จากไตรมาส 1/2561 ปัจจัยหลักมาจากการบันทึกกำไรจำนวน 8.6 พันล้านบาทจากการขายหุ้น 50% ในบริษัท เงินติดล้อ จำกัด ให้กับพันธมิตรเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจไมโครไฟแนนซ์ของกรุงศรี

            อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ อยู่ที่ 38.7% ปรับตัวดีขึ้นจาก 46.1% ในไตรมาส 1/2561 สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) อยู่ที่ระดับ 1.99% ปรับตัวดีขึ้นจาก 2.08% ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2561 อัตราส่วนเงินสำรองต่อสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ ปรับตัวดีขึ้นมาที่ 165.7% จาก 160.8%  ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2561 และอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง อยู่ที่ 14.91%  

            ด้านนายโนริอากิ โกโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  กรุงศรี กล่าวว่า ธนาคารมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งในไตรมาส 1/2562 ด้วยกำไรสุทธิรายไตรมาสสูงสุดที่ 1.27 หมื่นล้านบาท โตมากกว่าเท่าตัวจากไตรมาส 1/2561 หากไม่รวมกำไรจากการขายเงินติดล้อและค่าใช้จ่ายการชดเชยเกษียณอายุตามกฏหมายแรงงานฉบับใหม่ กรุงศรียังคงมีกำไรสุทธิสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 6.9 พันล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 11.5% จากไตรมาส 1/2561 

            สำหรับแนวโน้มธุรกิจในปี 2562 จากการที่เศรษฐกิจโลกได้เข้าสู่การชะลอตัวตามวัฏจักร ธนาคารยังคงระมัดระวังปัจจัยต่างประเทศและผลกระทบต่อภาคส่งออกของไทย แม้ว่าการใช้จ่ายภาครัฐชะลอตัวลงและอุปสงค์ต่างประเทศลดลง ธนาคารยังมีมุมมองเชิงบวกอย่างระมัดระวังโดยคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยจะเติบโตที่ 3.8% ดังนั้น ธนาคารยังคงเป้าหมายการเติบโตของเงินให้สินเชื่อที่ 68%

www.mitihoon.com