ECF เตรียมรับรู้ส่วนแบ่งกำไรทันที หลังโรงไฟฟ้ามินบู COD เฟส 1  50 MW ภายในไตรมาส 2/62 นี้

148

มิติหุ้น – ECF เตรียมรับรู้ส่วนแบ่งกำไรทันที หลังโรงไฟฟ้ามินบู COD เฟส 1  50 MW ภายในไตรมาส 2/62 นี้

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ. อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค หรือ ECF โดยนายอารักษ์ สุขสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการ เปิดเผยว่า บริษัทได้เข้าลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ขนาด 220 เมกะวัตต์          เมืองมินบู ประเทศเมียนมา  ในสัดส่วน 20% โดยลงทุนผ่าน บริษัท อีซีเอฟ พาวเวอร์ จำกัด ในฐานะบริษัทย่อยของบริษัท คาดว่าโครงการดังกล่าวจะเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) ในไตรมาส 2 ปี 2562 และภายหลัง COD บริษัทจะสามารถรับรู้ส่วนแบ่งกำไรได้ทันที

สำหรับความคืบหน้าการพัฒนาโครงการฯ เมื่อวันที่ 5 เม.ย.ที่ผ่านมา Power Transmission and System Control (“DPTSC”) ภายใต้การดูแลของกระทรวงพลังงานและไฟฟ้า (Ministry of Electricity and Energy; MOEE) กำลังทดสอบระบบก่อนใช้แรงดันจริง (Cold Commissioning) ซึ่งหลังจากการทดสอบโดย MOEE และผู้รับซื้อไฟฟ้า (Electric Power Generation Enterprise; EPGE) เสร็จสิ้น คาดว่าโครงการจะสามารถเริ่ม COD เฟสที่ 1 ขนาดกำลังการผลิต 50 เมกะวัตต์DC ส่วนการเริ่ม COD ของเฟสที่ 2 3 และ 4 จะทยอยการก่อสร้างให้แล้วเสร็จ โดยมีกำหนดระยะเวลาดำเนินการหลัง COD 360 วันของแต่ละเฟสเป็นลำดับต่อไป

อนึ่ง โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ขนาดกำลังการผลิต 220 เมกะวัตต์ เป็นโครงการที่ปัจจุบันอยู่ภายใต้การบริหารงานของ บริษัท พลังงานเพื่อโลกสีเขียว (ประเทศไทย) จำกัด หรือ GEP โดยมีผู้ลงทุนหลักคือ  ECF, บมจ. เมตะ  คอร์ปอเรชั่น (META) และ บมจ. สแกน อินเตอร์จำกัด (SCN) และ Noble Planet PTE. Ltd. (NP)

ได้รับสัมปทานเพื่อพัฒนาและดำเนินงานแบบ BOT (Built-Operate-Transfer) ระยะเวลาสัญญา 30 ปี ด้วยอัตราค่าไฟฟ้าที่ได้รับสนับสนุนจากภาครัฐ 0.1275 USD / kWh แบ่งเป็นระยะเวลาการดำเนินการก่อสร้างทั้งหมด 4 ระยะ โดย 3 ระยะแรกมีขนาดอยู่ที่ประมาณ 50 MW ระยะสุดท้าย 70 MW ขนาดพื้นที่รวมโครงการ 836 เอเคอร์ หรือเท่ากับ 2,115 ไร่  ได้รับสิทธิเช่าพื้นที่จากรัฐบาลและบริษัทในประเทศเมียนมา เมื่อมีการผลิตไฟแล้วจะขายให้กับ Electric Power Generation Enterprise (“EPGE”), กระทรวงไฟฟ้าและพลังงาน รัฐบาลสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์

www.mitihoon.com