บล.โกลเบล็ก มองสงครามการค้า – GDP หดตัว ทำหุ้นผันผวน แนะลงทุนหุ้น Defensive – หุ้นเข้าคำนวณ MSCI

94

มิติหุ้น – บล.โกลเบล็ก มองสงครามการค้า – GDP หดตัว ทำหุ้นผันผวน แนะลงทุนหุ้น Defensive – หุ้นเข้าคำนวณ MSCI

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บล.โกลเบล็ก หรือ GBS โดย น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย เผยว่า ทิศทางตลาดหุ้นไทยได้รับปัจจัยบวกจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก หลังกลุ่มโอเปกส่งสัญญาณคงการปรับลดกำลังการผลิตไว้ที่ระดับเดิม 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน  ขณะที่การสู้รบในภูมิภาคตะวันออกกลางหนุนราคาน้ำมันให้อยู่ในระดับสูง

ปัจจัยหลักที่กดดันตลาดหุ้นในสัปดาห์นี้ มาจากภาพรวมสงครามการค้าสหรัฐ-จีนซึ่งยังไม่มีท่าทีว่าจะจบและมีแนวโน้มรุนแรงเพิ่มขึ้นต่อเนื่องหลังสหรัฐฯกีดกันการค้ากับจีนในรูปแบบอื่นจากการห้ามบริษัทสหรัฐดำเนินธุรกิจกับบริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี  แม้จะยกเลิกคำสั่งเป็นการชั่วคราวออกไป 90 วันจนถึง 19 ส.ค.  ทั้งนี้ ข้อสรุปในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ และจีนอาจต้องรอไปถึงการประชุมผู้นำ G20 ในเดือนมิถุนายที่จะถึงนี้  รวมทั้งเศรษฐกิจในประเทศแสดงถึงแนวโน้มชะลอตัว  ล่าสุดสภาพัฒน์ปรับลดคาดการณ์ GDP ปี 2562 เหลือ 3.6% โดยอยู่ในกรอบ 3.3 – 3.8% จากเดิม 3.5-4.5% หลังรายงาน GDP ในช่วงไตรมาส 1/2562 ขยายตัวเพียง 2.8% ต่ำกว่าระดับ 3.7% ในไตรมาส 4/ 2561 และต่ำสุดในรอบ 17 ไตรมาส

แนะนำจับตาในวันที่ 22 พ.ค. กสทช.จัดประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ (Public Hearing) คลื่นความถี่ 700 MHz สหรัฐ เปิดเผยสต๊อกน้ำมันรายสัปดาห์ และคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC)เปิดเผยรายงานการประชุมระหว่าง 30 เม.ย.- 1 พ.ค. (เช้าวันที่ 23 พ.ค.) ส่วนวันที่ 23 พ.ค. อียูเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต-ภาคบริการเบื้องต้น สหรัฐเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานและดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต-ภาคบริการเบื้องต้น และวันที่ 24 พ.ค. เปิดประชุมรัฐสภา ส่วนสหรัฐเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน

ด้านนายสรรพกัณฑ์ ปัมทบริสุทธิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก  กล่าวว่า ทิศทางตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้คาดว่ามีความผันผวนในทิศทางขาลง  โดยคาดดัชนี SET จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ  1,590-1,617 จุด ดังนั้นแนะนำกลยุทธ์การลงทุนในหุ้นกลุ่ม Defensive เช่น กลุ่มค้าปลีกที่ได้ประโยชน์จากการบริโภคภายในประเทศ ชู CPALL และ MAKRO  กลุ่มท่องเที่ยว เช่น AOT และ ERW  กลุ่มโรงพยาบาลที่คาด เช่น BCH  และกลุ่มโรงไฟฟ้า เช่น EGCO และ RATCH รวมทั้งหุ้นเข้าใหม่คำนวณในดัชนี MSCI มีผล 28 พฤษภาคมนี้ ได้แก่ RATCH, INTUCH, DTAC

www.mitihoon.com