ARROW ชี้กำไรQ2กระชากแรง แบ็คล็อกนิวไฮ-เป้า11.50บ. (25/07/62)

100

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.แอร์โรว์ ซินดิเคท หรือ ARROW ผลิตและจำหน่ายท่อร้อยสายไฟฟ้า-ท่อประปา โดย “บล.หยวนต้า” เผยว่า แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/62 ของ ARROW มีโอกาสเห็นกำไรสุทธิกระชากขึ้นแรง เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิเพียง 26.96 ล้านบาท และรายได้รวมที่ 316.05 ล้านบาท

 หมดห่วงบ.ย่อย-เป้า11.50บ.

โดยเป็นผลมาจากบริษัทย่อยที่บริษัทถือหุ้น 65% อย่าง “บจ.เม-ฆา เอส” มีไม่มีผลขาดทุนอีกในปีนี้ ขณะที่มีงานในมือ (Backlog) เฉพาะงานขายท่อร้อยสายไฟที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1 พันล้านบาท ประกอบกับราคาเหล็กแผ่นรีดเย็นที่เป็นต้นทุนหลักปรับตัวลงมาแล้ว 10% จากต้นปีที่ผ่านมา ดังนั้นคาดผลงานจะเติบโตต่อเนื่องในทุกๆไตรมาส ดังนั้นทั้งปี 62 คาดกำไรสุทธิจะอยู่ที่ 190 ล้านบาท เติบโต 24% จากปีก่อน จึงแนะนำ “ซื้อ” เป้าหมาย 11.50 บาท

ด้าน “นายธานินทร์ ตันประวัติ” กรรมการผู้จัดการ เผยว่า แนวโน้มผลประกอบการช่วงครึ่งปีหลัง จะเติบโตโดดเด่น เพราะเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ ประกอบกับเริ่มเห็นภาครัฐบาลเร่งผลักดันการลงทุนโครงสร้างพื้่นฐานออกมา อาทิ โครงการรถไฟฟ้าสายสีต่างๆ และการเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าจากอากาศลงใต้ดิน ทำให้บริษัทมีโอกาสได้รับงานใหม่ๆเข้ามามากขึ้น โดยปัจจุบันบริษัทมีงานในมือ (Backlog) สูงถึง 1 พันล้านบาท จะรับรู้รายได้ปีนี้ประมาณ 70% ส่วนที่เหลือจะรับรู้ในปีถัดไป

ลุยเพิ่มกำลัง-รายได้พุ่ง10%

ส่วนกลยุทธ์ช่วงที่เหลือของปี บริษัทยังคงเน้นขยายกำลังการผลิตท่อร้อยสายไฟใต้ดิน จากเดิมอยู่ที่ 3แสนเมตรต่อปี เป็น 1 ล้านเมตรต่อปี เพื่อรองรับความต้องการ ท่อร้อยสายไฟฟ้าใต้ดินจากโครงการของภาครัฐและโครงการรถไฟฟ้า รวมทั้งบริษัทได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ผลิตจากแผ่นโฟม (PID) ที่ใช้ในระบบปรับอากาศด้วย

ดังนั้นทั้งปี 62 มั่นใจรายได้จะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ 10% เมื่อเทียบกับปีก่อน ทั้งนี้การที่บริษัทมีหนี้สินต่อทุน   (D/E )ต่ำเพียง 0.36 เท่า ที่ส่วนใหญ่เป็นหนี้สินระยะสั้น ทำให้บริษัทไม่กังวลเรื่องปัญหาเงินทุนที่จะขยายธุรกิจในอนาคต

“ ปริมาณออเดอร์จะเข้ามาสูงมากในช่วงครึ่งปีหลัง เพราะเป็นช่วงไฮซีซั่น ประกอบกับภาครัฐเร่งผลักดันงานโครงสร้างพื้นฐานเป็นจำนวนมาก ทั้งโครงการรถไฟฟ้า และการเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าจากอากาศลงใต้ดิน ดังนั้นเชื่อว่าทั้งปี62 รายได้จะเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ที่ 10% อย่างแน่นอน” นายธานินทร์ กล่าว