มิติหุ้น-NER ปักธงรายได้นิวไฮยาว 4 ปี แตะที่ระดับ 2.5 หมื่นล้านบาท ชี้รายใหญ่ ‘จีน-ไทย-อินเดีย’ ป้อนออเดอร์ล็อตใหญ่ ลุยสร้างโรงงานใหม่อัพกำลังผลิตเพื่อรองรับความต้องการรวม 4.60 แสน/ปี พร้อมผนึกพันธมิตร ม.อ.ผุดสินค้ามาร์จิ้นสูง 12% จับตาไตรมาส 3/62 ผลงานพุ่งทะยาน เหตุลูกค้ารายใหม่ 7-8 ราย เรียงคิวป้อนออเดอร์เต็มแม็ก
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น”รายงานว่า บมจ.นอร์ทอีส รับเบอร์ หรือ NER ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยางพาราธรรมชาติแปรรูป โดย “นายชูวิทย์ จึงธนสมบูรณ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เผยว่า มั่นใจทั้งกำไรสุทธิและรายได้รวมจะเติบโตทำสถิติสูงสุดใหม่ (นิวไฮ) ต่อเนื่องไปอีก 4 ปีข้างหน้า (62-65) โดยอัตรากำไรสุทธิจะเติบโตไม่น้อยกว่า 5% ต่อปี ส่วนรายได้รวมคาดปีนี้อยู่ที่ 13,500 ล้านบาท, 20,000 ล้านบาท ,22,500 ล้านบาท และ 25,000 ล้านบาท ตามลำดับ
ลูกค้าใหม่สั่งออเดอร์เพียบ
โดยแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 3/62 จะเติบโตต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/62 ที่มีกำไรสุทธิ 166.29 ล้านบาท และรายได้รวมที่ 3,342 ล้านบาท แม้ราคายางจะลดลงเฉลี่ยที่ 50 บาท/กิโลกรัม เทียบกับไตรมาสก่อนที่เคยสูง 60 บาท/กิโลกรัม แต่บริษัทก็มีการบริหารจัดการที่ดี รวมถึงสามารถขายสินค้าล่วงหน้าจนถึงไตรมาส 4/62 โดยปัจจุบันมียอดขายรวม 255,000 ตัน จากเป้าหมายในปีนี้ที่ 260,000 ตัน
เนื่องจากช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ บริษัทมีลูกค้าใหม่ที่เริ่มซื้อขายเพิ่มเข้ามาอีกหลายราย อาทิ 1.Zhongce Rubber Thailand, 2. Triangle Tyre Co.,Ltd, 3. Silun Tire,4.Wuchan Zhongda Utech Singapore, 5. Chongqing General Trading Chemical , 6. Qingdao YaKai International ,7. Hongkong Tiancheng Investment&Trading Co.,Ltd เป็นต้น แต่เป็นการเซ็นสัญญาระยะสั้นเท่านั้น และจะเซ็นสัญญาระยะยาว (Long Term) เมื่อโรงงานใหม่ก่อสร้างเสร็จ เพราะปัจจุบันโรงงานเดิมกำลังผลิตใกล้เต็ม 100% แล้ว ล่าสุดลูกค้า Long Term เพิ่มขึ้นเป็น 11 ราย จากปีก่อนมี 8 ราย
เซ็นต์ลูกค้ารายใหญ่เพิ่ม2 ราย
โดยโรงงานใหม่ คาดจะแล้วเสร็จในช่วงไตรมาส 1/63 มีกำลังการผลิตเต็มที่ 170,000 ตันต่อปี ตั้งเป้าการใช้กำลังผลิต 70% และปี 64 จะเต็ม 100% จากปัจจุบันโรงงานเดิมมีกำลังผลิตเต็มที่ได้ 290,000 ตันต่อปี ปัจจุบันใช้เพียง 260,000 ตัน เมื่อรวมกำลังการผลิตเต็มที่ทั้งของเก่าและใหม่ทำให้กำลังผลิตเพิ่มเป็น 460,000 ตันต่อปี ล่าบริษัทมีลูกค้ารวมระยะสั้นและยาวประมาณ 29-30 ราย
พร้อมกันนี้ปัจจุบันมีลูกค้ารายใหญ่ 2 ราย พร้อมที่จะเซ็นสัญญา Long Term เมื่อโรงงานใหม่ก่อสร้างแล้วเสร็จ คือ MICHELIN และ Apollo Tyre ล่าสุดได้เข้ามาตรวจสอบคุณภาพโรงงานแล้ว พร้อมป้อนออเดอร์ในต้นปีหน้า ทั้งนี้ในปี 63 บริษัทมีแผนเพิ่มเป้ายอดขายที่มีสัดส่วนเป็นเงินบาทเพิ่มขึ้นเป็น 70% จากเดิมที่ปีนี้ตั้งเป้าไว้ 60% เพื่อลดปัญหาอัตราแลกเปลี่ยนที่ผันผวน
ผนึกพันธมิตรผุดสินค้ามาร์จิ้นสูง
ล่าสุด NER ได้ลงนามร่วมกับ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) เพื่อวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีมาร์จิ้นสูง (High Margin) คาดจะเริ่มเห็นความชัดเจนในปี 2563 และเริ่มผลิตผลิตภัณฑ์ในปี 2564 โดยมีอัตรากำไรสุทธิ (Gross Profit Margin) ไม่ต่ำกว่า 8-12% สูงกว่าผลิตภัณฑ์เดิมที่มีอัตรากำไรสุทธิ 3-6% คาดในระยะถัดไปผลิตภัณฑ์ในกลุ่มนี้จะสร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท /ปี
www.mitihoon.com
