TIPCO-MALEE โดนเต็มภาษีน้ำตาลรอบใหม่ 1 ต.ค.นี้

959

มิติหุ้น-จากรกณีที่กรมสรรพสามิตจะมีการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตค่าความหวานเพิ่มแบบขั้นบันได หรือ Step 2 จากที่เก็บไปแล้วเมื่อ 16 ก.ย. 2560 พบว่า มีผู้ประกอบการที่ผลิตเครื่องดื่มเพียงยี่ห้อเดียวที่ลดปริมาณน้ำตาลในเครื่องดื่มเพื่อเสียภาษีในอัตราที่ถูกลง ส่งผลให้การจัดเก็บภาษีค่าความหวานในปัจจุบันกรมสรรพสามิตสามารถจัดเก็บรายได้ต่อปีอยู่ที่ 2-3 พันล้านบาท แต่อัตราภาษีใหม่ที่จะปรับแบบขั้นบันไดซึ่งจะมีผลในวันที่ 1 ต.ค.62 คาดรายได้จากภาษีน้ำหวานจะเพิ่มขึ้นเป็น 3.5-4.5 พันล้านบาทต่อปี

ซึ่งเกณฑ์จัดเก็บภาษีที่จะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.62-30 ก.ย.64 กรมสรรพสามิตกำหนดให้จัดเก็บภาษีเครื่องดื่มที่มีปริมาณน้ำตาลไม่เกิน 10 กรัมต่อ 100 มิลลิลิตร ในอัตราเดิมภาษีที่ 0.30 บาทต่อลิตร ส่วนเครื่องดื่มที่มีปริมาณน้ำตาลเกิน 10 กรัม แต่ไม่เกิน 14 กรัมต่อ 100 มิลลิลิตร จะเก็บภาษี 1 บาทต่อลิตร จากปัจจุบันที่จัดเก็บภาษีที่ 0.50 บาทต่อลิตร เครื่องดื่มที่มีปริมาณน้ำตาลเกิน 14 กรัม แต่ไม่เกิน 18 กรัมต่อ 100 มิลลิลิตร จะจัดเก็บ 3 บาทต่อลิตร จากปัจจุบันเก็บ 1 บาทต่อลิตร และเครื่องดื่มที่มีปริมาณน้ำตาลเกิน 18 กรัมต่อ 100 มิลลิลิตร จัดเก็บ 5 บาทต่อลิตร และจะมีการปรับเพิ่มขึ้นอีก 1 เท่าตัวอีกครั้งเมื่อถึงวันที่ 1 ต.ค.64-30 ก.ย.66 และเมื่อถึงวันที่ 1 ต.ค.66 เป็นต้นไป

ด้านบทวิเคราะห์ บล.ฟินันเซียไซรัสระบุว่า ภาษีความหวานถูกเพิ่มระดับเป็น Step 2 เริ่มเก็บ 1 ต.ค. นี้ โดยพบว่า เครื่องดื่มที่มีน้ำตาลมากกว่า 10-14 กรัมต่อเครื่องดื่ม 100 มล. จะถูกเก็บภาษีเพิ่มอีกเท่าตัว ไม่กระทบต่อ OSP, CBG, ICHI, OISHI, TACC และ SAPPE เพราะปรับตัวเรียบร้อยแล้ว ยกเว้น TIPCO, MALEE เพราะน้ำผลไม้ 100% ปรับสูตรไม่ได้

ดังนั้นกลุ่มเครื่องดื่มฝ่ายวิจัยจึงแนะนำ “ซื้อ”  คือ TACC ราคาเป้าหมายที่ 6 บาท/หุ้น, OSP ราคาเป้าหมาย 37 บาท/หุ้น และ SAPPE  ราคาเป้าหมาย 25 บาท/หุ้น ก็ยังชอบ แต่รอซื้ออ่อนตัว เพราะ Upside จำกัด

www.mitihoon.com