ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง หรือ TKN ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายขนมขบเคี้ยวประเภทสาหร่าย ภายใต้ตราสินค้า “เถ้าแก่น้อย” โดยนายอิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยว่า บริษัทได้มีการปรับปรุงโครงสร้างการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ส่งไปจำหน่ายในตลาดประเทศจีน โดยได้แต่งตั้งบริษัท โอริออน คอร์ป (Orion Crop.) ประเทศจีน บริษัทลูกของ โอริออนกรุ๊ป (Orion Group) เข้ามาเป็นตัวแทนจำหน่ายเพียงผู้เดียว จากเดิมที่มีตัวแทนจัดจำหน่าย (Distributor) จำนวน 3 ราย เพื่อการดำเนินงานได้อย่างเป็นระบบมากขึ้นทั้งนี้ คาดจะส่งผลต่อการเติบโตอย่างต่อเนื่องในประเทศจีน ที่เป็นตลาดสำคัญอันดับหนึ่งจากสัดส่วนกว่า 40% ของยอดขายของบริษัท อีกทั้ง โอริออน ยังมีกลยุทธ์และฐานตลาดหลักที่สำคัญ 4 ตลาด ซึ่งสอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ของเถ้าแก่น้อยที่จะเติบโตในอนาคต
โดยการร่วมมือในครั้งนี้คาดการณ์ว่าจะส่งผลให้มีการเติบโตในตลาดจีนกว่า 30% รวมถึงการเข้าถึงตลาดใหม่ในเกาหลีใต้ และรัสเซีย ซึ่งจะช่วยให้ TKN สามารถบรรลุเป้าหมายยอดขาย 10,000 ล้านบาท ภายในปี 2567 ตามเป้าหมายที่วางไว้
ทั้งนี้ โอริออน กรุ๊ป ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายขนมขบเคี้ยว มานานกว่า 70 ปี โดยการเป็นผู้แทนจำหน่ายสินค้าในหลายประเทศ ด้วยมาตรฐานการผลิตและระบบบริหารจัดการที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก โดยมีฐานการผลิตและเครือข่ายการจัดจำหน่ายขนาดใหญ่ในประเทศจีนในจีนกว่า 30 ปีที่จะช่วยให้ TKN ได้รับประโยชน์ในด้านข้อมูลพฤติกรรมผู้บริโภค, ข้อมูลตลาดสินค้า และช่องทางการจัดจำหน่ายในประเทศจีนมากยิ่งขึ้น
Mr.Inn Chul Hur ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Orion กล่าวว่า การเลือกคู่ค้าในจีนของ Orion เป็นเรื่องที่ท้าทายโดยการที่บริษัทเลือกเถ้าแก่น้อย เนื่องจากเชื่อว่าเถ้าแก่น้อยจะช่วยขยายฐานการจัดจำหน่ายของ Orion อีกทั้ง ยังช่วยในเรื่องของการทำตลาดสินค้าในกลุ่มขนมขบเคี้ยวประเภทสาหร่ายจากผลิตภัณฑ์ของเถ้าแก่น้อย และการทำตลาดในประเทศไทย และอาจมีการทำลักษณะ Co-Brand ร่วมกันในอนาคตอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม สำหรับการที่ Orion เข้าลงทุนในหลักทรัพย์ของเถ้าแก่น้อยนั้น เป็นการยืนยันได้ว่าทั้งสองบริษัทจะมีความร่วมมือเพื่อความเติบโตควบคู่กันไปในระยะยาว
“บริษัทมีแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่อีก 8 โปรเจค ที่จะนำออกจำหน่ายภายใน 2 ปีข้างหน้า ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างจัดทำแผนการลงทุนปีหน้า คาดว่าจะได้เห็นแน่ๆ อย่างน้อย 4 โปรเจค ภายในระยะเวลา 2 ปี และการร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ใหม่ในครั้งนี้ บวกกับทีมงานที่เข้มแข็งและการรุกเข้าไปยังตลาดใหม่ๆ เชื่อว่ายังมีโอกาสเติบโตสำหรับเถ้าแก่น้อยอีกมาก” นายอิทธิพัทธ์ กล่าว
www.mitihoon.com
