EA ธุรกิจ‘EV’พารวย ชาร์จรายได้ทะยานนิวไฮ (11/10/62)

601

มิติหุ้น-EA การันตีไตรมาส 3/62 ผลงานพุ่งแรง ชี้ไฮซีซั่นพลังงานลมหนุน แถมรับทรัพย์กำลังการผลิตเต็มเหนี่ยว 664 MW ปูพรมทั้งปี 62 รายได้นิวไฮ 1.5 หมื่นล้านบาท ส่วนปี 63 รายได้พีคต่อเนื่อง 2 หมื่นล้านบาท ชี้ธุรกิจใหม่โชว์ยอดยอดขาย “รถยนต์-เรือ-รถบัส-รถบรรทุกไฟฟ้า” ทะลัก

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ หรือ EA โดย “นางสาวออมสิน ศิริ” ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร เผยว่า แนวโน้มผลงานช่วงไตรมาส 3/62 จะเติบโตโดดเด่น เพราะเป็นช่วงไฮซีซั่นของโรงไฟฟ้าพลังงานลม และยังรับรู้รายได้เต็มไตรมาสจาก “โครงการหนุมาน 10” จ.ชัยภูมิ ขนาด 80 MW (COD วันที่ 13 เม.ย.) ดังนั้นทำให้โครงการ

หนุมาน COD ครบถ้วนทั้ง 260 MW และผลักดันให้มีโรงไฟฟ้าที่ COD รวมทั้งสิ้น 664 MW แบ่งเป็นพลังงานลม 386 MW และ โซลาร์ 278 MW

ดังนั้นทั้งปี 62 มั่นใจรายได้จะเติบโตทำนิวไฮที่ 1.5 หมื่นล้านบาท หรือ เติบโต 18.52% จากปีก่อน เพราะมีโรงไฟฟ้าที่ COD เพิ่มขึ้น ส่วนในปี 63 ตั้งเป้ารายได้ทำนิวไฮต่อเนื่องที่ 2 หมื่นล้านบาท เติบโตเกิน 30% จากปีก่อน เนื่องจากบริษัทจะรับรู้รายได้โรงไฟฟ้าเข้ามาเต็มปีที่ 664 MW รวมถึงเริ่มรับรู้รายได้จากธุรกิจใหม่ๆด้วย

โกยยอดขายรถไฟฟ้า5.4พันล.

โดย “ธุรกิจผลิตรถไฟฟ้า” ล่าสุดมียอดจองแล้วกว่า 4,500 คัน ราคา 1.2 ล้านบาท/คัน มูลค่ารวม 5.4 พันล้านบาท คาดจะเริ่มส่งมอบในเดือน มี.ค.63 สำหรับโครงการผลิตรถบัสไฟฟ้า รถบรรทุกไฟฟ้าที่อยู่ภายใต้บริษัทย่อย อย่าง “บจ.อีวีนาว หรือ EV Now”นั้น ปัจจุบันเริ่มมียอดจองเข้ามาแล้ว ซึ่งจะผลิตในโรงงานประกอบรถยนต์ไฟฟ้าของบริษัท ที่จ.ฉะเชิงเทรา โดยมีกำลังการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า 10,000 คัน/ปี คาดแล้วเสร็จในกลางปี 63
ด้าน “ธุรกิจสถานีอัดประจุไฟฟ้า” ที่ได้จับมือ 4 พันธมิตรใหญ่ เชฟรอน, บริดจสโตน, CPALL, ROBINS เพื่อติดตั้งสถานีชาร์จไฟฟ้า ล่าสุดมีกว่า 400 แห่งและคาดว่าสิ้นปี 62 จะมีทั้งสิ้น 600-700 แห่ง และจะครบ 1,000 แห่งในปี 63

ส่วน “ธุรกิจแบตเตอรี่”โรงงานผลิตผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน เฟสแรก ขนาด 1 กิกะวัตต์ ได้ร่วมพัฒนาและก่อสร้างกับบริษัท Amita Technologies จำกัด คาดจะเริ่มขายได้ไม่เกินไตรมาส 2/63 ซึ่งจะสร้างรายได้ประมาณ 3 พันล้านบาท ส่วนเฟสที่ 2 ขนาด 50 กิกะวัตต์ มีโอกาสจะก่อสร้างเร็วกว่ากำหนด หลังจากที่มีนโยบายรัฐที่จะส่งเสริม

รุกเรือไฟฟ้าทำเงิน

ขณะที่ “ธุรกิจเรือไฟฟ้า” ที่ดำเนินการโดยบริษัทย่อย “บจ.อี สมาร์ท ทรานสปอร์ต” คาดว่าจะผลิตออกมาได้ในสิ้นเดือน ต.ค.จำนวน 2 ลำ เพื่อทดลองระบบ ก่อนจะดำเนินการขอใบอนุญาตประกอบการเรือโดยสารต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยปี 63 มีแผนประกอบเรือรวม 54 ลำ
สำหรับ “ธุรกิจไบโอดีเซล” ปัจจุบันมีแผนเดินหน้าโครงการสร้างเพิ่มมูลค่าไบโอดีเซล จากปัจจุบันมีกำลังผลิตรวม 8 แสนลิตร/วัน ส่วน “โครงการกรีนดีเซล” ซึ่งมีคุณสมบัติเหมือนน้ำมันดีเซลแต่กลั่นมาจากน้ำมันปาล์ม ซึ่งสามารถใช้แทนน้ำมันดีเซลได้นั้น ก็กำลังได้รับอานิสงส์จากมาตราการ IMO 2020 ที่จะเริ่มบังคับใช้ในวันที่ 1 ม.ค.63 นี้ด้วย ทำให้มียอดขายจาก“โครงการกรีนดีเซล” เพิ่มขึ้น

www.mitihoon.com