TOP วาดฝันกำไรแตะ3หมื่นล้าน ชี้ชัดค่าการกลั่นร้อนระอุ (9/12/62)

178

มิติหุ้น-TOP ไตรมาส4/62 เริ่มฟื้นตัวรับผลดีค่าการกลั่นฟื้นตัว ลุ้นกลับมามีกำไรเมื่อเทียบกับไตรมาส3/62 ที่ขาดทุน ด้าน ซีอีโอ” มือดี “นายวิรัตน์  เอื้อนฤมิต”  มองไกล11 ปีข้างหน้ากำไรแตะ 3 หมื่นล้านบาท พร้อมใส่เกียร์ลุยโครงการพลังงานสะอาด กูรูให้เป้า 73 บ./หุ้น

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) TOP ผู้ประกอบธุรกิจการกลั่น และจำหน่ายนํ้ามันปิโตรเลียมรายใหญ่โดย นายวิรัตน์  เอื้อนฤมิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ระบุว่า แผนการลงทุนระยะ 5 ปี (62-66) ว่า บริษัทคาดว่าจะใช้เงินลงทุนราว 4.83 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยเน้นลงทุนในโครงการพลังงานสะอาด (CFP)

โดยปี 2563 จะใช้เงินลงทุนราว 1.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปี 2562 ที่ใช้เงินลงทุนราว 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนแผนระยะยาว 11 ปีข้างหน้าหรือภายในปี 2573 บริษัทตั้งเป้ากำไรสุทธิแตะ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯหรือราว 3 หมื่นล้านบาท พร้อมมั่นใจบริษัทจะสร้างกำไรขั้นต้นจากการผลิตของกลุ่ม (GIM) โดยไม่รวมผลกระทบจากสต็อกน้ำมัน

อย่างไรก็ตาม โครงการ CFP ยังให้ผลพลอยได้ คือ แนฟทา ที่ใช้ในธุรกิจปิโตรเคมีราว 2.2 ล้านตัน/ปี ซึ่งบริษัทมีแผนจะต่อยอดขยายลงทุนปิโตรเคมีเพื่อขยายกำลังการผลิตสารอะโรเมติกส์ หรือ โอเลฟินส์เพิ่มขึ้น จากปัจจุบันราว 5.4 แสนตัน/ปีเท่านั้น

นอกจากนี้โครงการกำไรของบริษัทจากปัจุบันมีสัดส่วนกำไรจากธุรกิจกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม 60% , อะโรเมติกส์และน้ำมันหล่อลื่นพื้นฐาน 23% ,ไฟฟ้า 12% และอื่น ๆ 5% และในปี 73 จะเปลี่ยนเป็น กำไรจากธุรกิจปิโตรเลียม 40% ,ปิโตรเคมี 40% ,ไฟฟ้า 15% และอื่น ๆ 5% ขณะที่ทิศทางราคาน้ำมันไตรมาส 4/62 อิงจากราคาน้ำมันดิบดูไบจะอยู่ในช่วง 56-61 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรลแต่มีแนวโน้มดีขึ้นจากแรงหนุนความต้องการใช้น้ำมันดีเซลและอากาศยานที่ปรับตัวสูงขึ้นในฤดูหนาว

Q4ค่าการกลั่นฟื้นตัว

บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่า ด้านกลยุทธ์การดำเนินงานระยะยาว vision ปี 2573 ตั้งเป้าเป็นโรงกลั่นที่ขนาดใหญ่และดีที่สุดในประเทศ โดยจะเน้น 1) strength core: ทำโครงการพลังงานสะอาด CFP ให้ตามแผน เน้น operation excellence 2) value chain extension: ขยายมูลค่าผลิตภัณฑ์สู่ปิโตรเคมีและเน้นผลิตภัณฑ์มูลค่าสูง 3) New ventures: หาโอกาสจากธุรกิจใหม่ โดยให้ความสำคัญด้านนวัตกรรม เพื่อสิ่งแวดล้อม และการทดแทนผลิตภัณฑ์hydrocarbon พร้อมคาดผลประกอบการไตรมาส3/62 ผ่านเป็นจุดต่ำสุด(ขาดทุน 682 ลบ.) แต่แนวโน้มไตรมาส4/62 ฟื้นตัวหรือพลิกมีกำไรเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากค่าการกลั่นยังต้องรอการฟื้นตัวของ crack spread น้ำมันดีเซลหลังจากสต็อกน้ำมันเตากำมะถันต่ำ (LSFO) หมดไปช่วงต้นปี 63 ทางพื้นฐานคงราคาเหมาะสม 70.00 บาท/หุ้น

ฐานะการเงินแข็งแกร่ง

ด้านบทวิเคราะห์ บล.เอเชีย เวลท์ ยังแนะนำ “ถือ” ราคาเป้าหมาย 73 บาท/หุ้น โดยประเมินว่าส่วนต่างราคาปิโตรเคมีในช่วงที่เหลือของปี 62 ถึงปี 63 ค่าการกลั่นยังคงได้ประโยชน์จาก Demand ที่เพิ่มขึ้นตามฤดูกาล รวมทั้งปัจจัยบวกจากมาตรการ IMO2020 แม้ในปี 63 จะยังมีโรงกลั่นเริ่ม ดำเนินงานจำนวนมาก แต่ภาพรวมยังเป็นบวก

www.mitihoon.com