ME ออกจากแซนด์บ็อกซ์ ธปท. หลังผ่านการทดสอบเทคโนโลยีจดจำใบหน้า ช่วยให้ลูกค้าเปิดบัญชีได้ง่าย สะดวก ปลอดภัย ไม่ต้องไปสาขา

52

มิติหุ้น-ME by TMB ได้รับอนุญาตจาก ธปท. ให้ออกจากแซนด์บ็อกซ์ เฟสแรกซึ่งเป็นการทดสอบการเปิดบัญชีเงินฝากด้วยเทคโนโลยีการจดจำใบหน้า (Facial Recognition) ผ่านการพิสูจน์และยืนยันตัวตนด้วยเทคโนโลยี eKYC โดยไม่ต้องไปสาขา เพียงลูกค้ามีพาสปอร์ต พร้อมด้วย บัตรประชาชน และสมาร์ทโฟนระบบ android ที่มีฟังก์ชั่น NFC ก็สามารถเปิดบัญชี ME SAVE ได้ทันทีผ่านแอปพลิเคชัน ME by TMB ทำให้ลูกค้าได้รับความปลอดภัย สะดวก รวดเร็ว ไม่ต้องเดินทางไปสาขา ตอกย้ำความเป็นผู้นำดิจิทัลแบงก์กิ้งแห่งแรกของไทย พร้อมเปิดให้บริการแล้ววันนี้ ส่วนการทดสอบเฟสสอง ที่เป็นการทดสอบการเปิดบัญชีเงินฝากข้ามธนาคารผ่านแพลตฟอร์ม NDID กำลังเดินหน้าพัฒนาด้วยเป้าหมายเพื่อสร้างชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นให้กับคนไทย คาดว่าจะพร้อมให้บริการเร็วๆ นี้

 ดร.เบญจรงค์ สุวรรณคีรี หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหาร ME by TMB ผู้นำดิจิทัลแบงก์กิ้งแห่งแรกของเมืองไทย เปิดเผยว่า หลังจากที่ TMB ได้มอบหมายให้  ME by TMB เข้าร่วมทดสอบการให้บริการเปิดบัญชีเงินฝากผ่านช่องทางดิจิทัลโดยใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ในขั้นตอนการแสดงพิสูจน์ตัวตน (Electronic Know Your Customer : e-KYC) เพื่อให้บริการเปิดบัญชี ME SAVE โดยล่าสุดธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้อนุญาตให้ ME ออกจากแซนด์บ็อกซ์ในเฟสแรกแล้ว สำหรับการเปิดบัญชีโดยใช้เทคโนโลยีการจดจำใบหน้า (Facial Recognition) เพียงลูกค้ามีพาสปอร์ต พร้อมด้วยบัตรประชาชน และสมาร์ทโฟนระบบ android ที่มีฟังก์ชั่น NFC ก็สามารถเปิดบัญชี ME SAVE ด้วยแอปพลิเคชัน ME by TMB  ได้ง่ายขึ้น ทุกที่ ทุกเวลา โดยไม่ต้องไปยืนยันตัวตนที่สาขา

พร้อมกันนี้ ME ยังคงพัฒนาบริการเพื่อให้ชีวิตทางการเงินของคนไทยดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการทดสอบเฟส เป็นการทดสอบการเปิดบัญชีเงินฝากข้ามธนาคารผ่านแพลตฟอร์ม NDID พิสูจน์และยืนยันตัวตนด้วยเทคโนโลยี eKYC โดยใช้บัตรประชาชน ผ่านโทรศัพท์มือถือระบบ android และ iOS คาดว่าจะได้รับอนุญาตจาก ธปท. ให้ออกจากแซนด์บ็อกซ์ และเปิดให้บริการแก่ลูกค้าทั่วไปอย่างเป็นทางการได้ในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งจะทำให้ลูกค้าได้รับความปลอดภัย และมีความสะดวกสบายในการเปิดบัญชีมากยิ่งขึ้น โดยสามารถเช็คข้อมูลระหว่างธนาคารโดยไม่ต้องไปพิสูจน์และยืนยันตัวตนที่สาขา ในขณะเดียวกันในส่วนของธนาคารก็จะช่วยลดขั้นตอนความยุ่งยากในการยืนยันตัวตนของลูกค้า สามารถเชื่อมต่อข้อมูลระหว่างภาครัฐ เอกชน และธนาคารเข้าด้วยกัน และช่วยลดต้นทุนการทำงานด้านต่างๆ ของธนาคาร ทำให้สามารถบริหารต้นทุนได้ดีขึ้น แล้วแปลงคืนกลับมาเป็นผลตอบแทนด้านดอกเบี้ยที่สูงขึ้น และบริการที่ดีขึ้นให้กับลูกค้าด้วย” ดร.เบญจรงค์ กล่าว

ทั้งนี้ ME ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างเต็มที่ ซึ่งลูกค้าสามารถมั่นใจได้ในความปลอดภัย เนื่องจากทุกขั้นตอนอยู่ภายใต้มาตรฐานการควบคุมความปลอดภัยของ TMB จนได้รับการยอมรับจากองค์กรต่าง ๆ และล่าสุดยังได้รับ 2 รางวัลจาก The Asset Triple A Digital Awards 2020 จัดโดย The Asset นิตยสารชั้นนำด้านการเงินการธนาคารในภูมิภาคเอเชีย ได้แก่ Best Biometrics Project – การตรวจสอบเอกลักษณ์เฉพาะบุคคลด้วยเทคโนโลยีไบโอเมตริกซ์ยอดเยี่ยม ซึ่งเป็นรางวัลจากการพัฒนาระบบ e-KYC และ Best Digital Insurance Experience  การสร้างประสบการณ์ซื้อประกันผ่านดิจิทัลยอดเยี่ยม จากผลิตภัณฑ์ ME SURE โดยก่อนหน้านี้ยังได้รับรางวัล Best Mobile Initiative, Application or Programmer การริเริ่มบริการโปรแกรมหรือแอปพลิเคชันบนโมบายแบงก์กิ้งยอดเยี่ยม จาก The Asian Banker Thailand Country Awards 2019 จัดโดย The Asian Banker นิตยสารชั้นนำด้านการเงินการธนาคารในภูมิภาคเอเชียมาแล้ว ซึ่งเป็นการตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อสร้างชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นให้กับคนไทยต่อไป” ดร.เบญจรงค์กล่าว

www.mitihoon.com