SMT ร่วมทุนยุโรปโกยเงิน จับตาผลงานร้อนระอุ (02/06/63)

318

มิติหุ้น- SMT แย้มงบไตรมาส 2/63 โตกระโดด เหตุ “อุปกรณ์เสื้อ PPE” ขายดีช่วง ‘Covid-19’กลุ่มโรงพยาบาลสั่งซื้อเพียบ แถมลูกค้ารายใหญ่จีนสั่งออเดอร์ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ล็อตใหญ่หลังเปิดประเทศ ซุ่มเงียบ “ร่วมทุน” ยุโรปทำเงิน

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.สตาร์ส ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) หรือ SMT ผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ โดย “นายนัทธพงศ์ ไชยกุล” กรรมการ เปิดเผยว่า แนวโน้มผลงานไตรมส 2/63 จะเติบโตโดดเด่น เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนที่ขาดทุนสุทธิถึง 30.70 ล้านบาท เนื่องจากมีธุรกิจใหม่เข้ามาเสริม อย่าง “ธุรกิจการแพทย์”

ลุยทำเงินช่วง ‘Covid-19’
โดยต้นเดือน เม.ย.63 ที่ผ่านมา บริษัทได้นำเข้าเพื่อจำหน่าย “อุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล (Personal Protection Equipment) หรือ PPE” ซึ่งมีความจำเป็นอย่างมากเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ “Covid-19” โดยบริษัทได้เจรจากับโรงพยาบาลในประเทกว่า 70 แห่ง และมีหลายแห่งได้สั่งออเดอร์เข้ามา อย่าง โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ ฯลฯ

รวมถึงบริษัทยังได้จำหน่ายผลิตภัณฑ์อื่นๆด้วย ได้แก่ เครื่อง AED Philips ช่วยกระตุกหัวใจด้วยไฟฟ้า และ รากฟันเทียม เป็นต้น ซึ่งธุรกิจนี้เป็นภาคธุรกิจที่ให้มาร์จิ้นค่อนข้างสูง ดังนั้นจะช่วยผลักดันให้ความสามารถในการทำกำไรของบริษัทเพิ่มขึ้นในอนาคต

จีนสั่งออเดอร์ล็อตใหญ่
ทั้งนี้ในช่วงไตรมาส 2/63 เป็นช่วงที่ “Covid-19” ในประเทศจีนเริ่มคลี่คลาย และทางการจีนได้อัดฉีดเม็ดเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจอีกครั้ง ทำให้ลูกค้าในประเทศจีน เข้ามาเจรจาเพื่อให้บริษัทส่งมอบออเดอร์ที่คงค้าง และสั่งออเดอร์ล็อตใหม่ทั้งในกลุ่มสินค้า Fiber Optic และ แผงวงจรไฟฟ้ารวม (IC Packaging) พร้อมกันนี้บริษัทอยู่ระหว่างเจรจาลูกค้ารายใหม่ในประเทศญี่ปุ่นด้วย (ส่งออกคิดเป็น 70-80% ของรายได้รวม)

ดังนั้นในปี 63 เบื้องต้นตั้งเป้ารายได้รวมเติบโตใกล้เคียงกับปี 62 อย่างไรก็ดีหากสถานการณ์ “Covid-19” และปัจจัยต่างประเทศคลี่คลายได้เร็ว ก็มีโอกาสที่ธุรกิจจะเร่งตัวมากขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง และอาจจะสนับสนุนให้ผลงานทั้งปี 63 เติบโตกว่าปีก่อนได้เช่นกัน

ผนึกพันธมิตรยุโรป
นายนัทธพงศ์ กล่าวเสริมว่า บริษัทอยู่ระหว่างเจรจาพันธมิตรโซนยุโรปเพื่อ “ร่วมทุน” หวังขยายและต่อยอด“ธุรกิจผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์” เพราะมองว่าตลาดนี้เป็นตลาดที่ใหญ่และความต้องการยังมีอยู่สูง ซึ่งการร่วมทุนครั้งนี้จะช่วยพัฒนาธุรกิจและยกระดับให้ธุรกิจเติบโตอย่างมั่งคงในอนาคต โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปีนี้

www.mitihoon.com