“ทองคำ” ยืนหนึ่งสินทรัพย์ปลอดภัย บลจ.กสิกรย้ำของต้องมีติดพอร์ต 5-10%

1304

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า นายนาวิน อินทรสมบัติ Chief Investment Officer (รองกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการลงทุนต่างประเทศ) บลจ.กสิกรไทย เผยมุมมองต่อตลาดทองคำว่า การลงทุนในทองคำยังน่าสนใจ จากราคาที่ขยับขึ้นไปแตะระดับสูงสุดในรอบ 8 ปี อยู่ที่ระดับ 1,650-1,750 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการอ่อนค่าของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ และความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจที่เป็นผลกระทบต่อเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ซึ่งจะทำให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายคงอยู่ในระดับต่ำต่อไปอีกระยะ

รวมถึงความต้องการเข้าลงทุนในทองคำจากกลุ่มผู้ลงทุน ผ่านกองทุนรวมดัชนีที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ (Exchange Traded Fund: ETF) ที่ยังคงมีการลงทุนในทองคำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าระดับราคาทองคำปรับตัวขึ้น สวนทางกับความต้องการซื้อจากแถบภูมิภาคเอเชียและธนาคารกลางต่างๆ ในอัตราที่ลดลงก็ตาม

ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทย แนะนำให้ลงทุนในกองทุน K-GOLD เป็นสัดส่วน 5-10% ของพอร์ต เพื่อกระจายความเสี่ยง อย่างไรก็ตาม หากปัจจัยเสี่ยงต่างๆ เริ่มคลี่คลาย รวมถึงค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น อาจทำให้ความน่าสนใจในทองคำลดลงได้

ประกาศจ่ายปันผล K-GOLD

ล่าสุด บลจ.กสิกรไทย ประกาศจ่ายเงินปันผล กองทุนเปิดเค โกลด์ (K-GOLD) สำหรับรอบผลการดำเนินงานตั้งแต่ 1 ก.ค. 2562 – 30 มิ.ย. 2563 ในอัตรา 0.20 บาทต่อหน่วย โดยมีกำหนดจ่ายปันผลในวันที่ 14 ก.ค. 2563 รวมมูลค่าทั้งสิ้น 170.08 ล้านบาท

นายนาวินกล่าวต่อไปว่า กองทุน K-GOLD มีนโยบายการลงทุนที่มุ่งเน้นสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับการเคลื่อนไหวของราคาทองคำแท่งในตลาดโลก ซึ่งที่ผ่านมาสามารถทำผลงานได้ใกล้เคียงกับเกณฑ์มาตรฐาน โดยมีผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน (YTD) อยู่ที่ 16.41% ทั้งนี้ นับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนมีการจ่ายปันผล รวมทั้งสิ้น 19 ครั้ง เป็นเงิน 5.15 บาทต่อหน่วย โดยในรอบผลการดำเนินงาน 1 ปีที่ผ่านมา กองทุนมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) เฉลี่ยอยู่ที่ 6.98% ต่อปี

สำหรับผู้ลงทุนที่สนใจกองทุน K-GOLD สามารถเริ่มต้นลงทุนได้เพียง 500 บาท ผ่าน App K PLUS, K-My Funds, ธนาคารกสิกรไทย หรือ ผู้สนับสนุนการขายและรับซื้อคืนหน่วยลงทุน โดยติดต่อขอรับหนังสือชี้ชวนได้ตามช่องทางดังกล่าว สอบถาม