เสน่ห์หุ้นน้องใหม่ NRF ผู้นำเทรนด์ Plant Based Food

968

มิติหุ้น-เป็นครั้งแรกในรอบหลายๆปีที่เพิ่งจะได้เห็นบริษัทจดทะเบียนที่มีคุณภาพและศักยภาพควรคู่แก่การลงทุนระยะยาวจริงๆ และที่สำคัญยังเป็นธุรกิจที่กำลังเฉิดฉายท่ามกลางวิกฤต ไม่เพียงเท่านี้ยังอาจจะกลายเป็นธุรกิจแห่งอนาคตของประเทศก็ว่าได้ และที่สำคัญวิสัยทัศน์ “ซีอีโอ”รุ่นใหม่ที่มองการณ์ไกลอย่าง น่าชื่นชมและน่าติดตามผลงานเสียจริง!!

ขอบอกได้เลยว่าเป็นอีกธุรกิจที่น่าค้นหาและมีเสน่ห์ทีเดียว นั่นก็คือ บริษัทเอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ NRF ผู้ผลิตและส่งออกอาหารและเครื่องปรุงรสชั้นนำ ด้วยทุนจดทะเบียน 1,421,040,400 บาท โดยเป็นทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้ว 1,065,780,300 ล้านบาท ที่มูลค้าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1 บาท (คิดเป็นจำนวน 1,065,780,300 หุ้น) เตรียมจะเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 340 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นไม่เกินร้อยละ 25.08 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทฯ แบ่งเป็นเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนไม่เกิน 290 ล้านหุ้น และเสนอขายหุ้นสามัญโดยผู้ถือหุ้นเดิม คือ บริษัท ดีพีเอ ฟันด์ เอส จำกัด จำนวนไม่เกิน 50 ล้านหุ้น

ส่วนแผนการลงทุนภายหลังการระดมทุนในครั้งนี้บริษัทฯจะนำเงินไปชำระเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน ลงทุนโครงการในอนาคต และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนภายในกิจการ และคาดว่าจะนำ NRF จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ภายในปี 2563 นี้ เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งของฐานะการเงินของบริษัท และสร้างการเติบโตให้พร้อมที่จะก้าวสู่ผู้นำในอุตสาหกรรมผลิตอาหารในระดับสากล และเป็นบริษัทฯที่มีรูปแบบพร้อมรองรับผลิตภัณฑ์อาหารที่มีการเติบโตสูงในอนาคต (Platform for Future Food) ตามวิสัยทัศน์ของซีอีโอ “แดน ปฐมวาณิชย์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร

ชำแหละโครงสร้างธุรกิจ และชูธุรกิจทำเงินแห่งอนาคต

ซึ่งหากจะชำแหละโครงสร้างธุรกิจมีดังนี้บริษัทฯ ถือเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมผลิตและส่งออกอาหารสำเร็จรูป เครื่องปรุงรสชั้นนำ และอาหารโปรตีนจากพืช โดยมีผลิตภัณฑ์มากกว่า 2,000 SKU และมากกว่า 500 สูตรอาหาร ใน 3 กลุ่มธุรกิจ 1.) กลุ่ม Ethnic Food (OEM / Private Label และ NRF Brands) 1.1 ผลิตภัณฑ์รับจ้างผลิตเครื่องประกอบอาหารและเครื่องปรุงรสอาหาร อาหารสำเร็จรูปพร้อมปรุง (Ready-to-cook) อาหารสำเร็จรูปพร้อมรับประทาน (Ready-to-eat)

และ1.2 ผลิตภัณฑ์ภายใต้ตราสินค้าของบริษัทฯ จำนวน 6 แบรนด์ ประกอบด้วยแบรนด์ประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์เครื่องปรุงต้มยำและเครื่องปรุงแกง ภายใต้แบรนด์ พ่อขวัญ เครื่องปรุงอาหารที่เน้นรสชาติแบบเอเชีย แบรนด์ Lee Brand อาหารสำเร็จรูป ในบรรจุภัณฑ์ที่พร้อมนำเข้าเตาไมโครเวฟและรับประทานได้ทันที เช่น ข้าวราดแกง ผัดไท แบรนด์ Thai Delight เครื่องปรุงรสอาหารและซุปกึ่งสำเร็จรูป แบรนด์ Shanggie เครื่องดื่มสำเร็จรูปชนิดผงและน้ำ แบรนด์ DeDe และเครื่องปรุงรสอาหารและพริกในรูปแบบขนมขบเคี้ยว แบรนด์ Sabzu

2.) กลุ่ม Plant-Based Food ผลิตภัณฑ์อาหารโปรตีนจากพืช และใส่ใจต่อสุขภาพที่ดีของผู้บริโภค เช่น เนื้อเทียมจากขนุนและมะเขือม่วง เส้นชิราตากิ หรือ เส้นบุกในรสชาติต่าง ๆ  ปัจจุบัน บริษัทฯ มีเงินลงทุนในธุรกิจ Plant-based food แล้วประมาณ 250 ล้านบาท และวางแผนลงทุนเพิ่มอีกประมาณ 400 ล้านบาท เพื่อลงทุนในฐานการผลิตในและนอกประเทศ รวมถึงการเป็นเจ้าของเทคโนโลยีการผลิต plant-based food เพื่อสร้างการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในอนาคต

และ 3. กลุ่ม Functional Products ธุรกิจผลิตภัณฑ์สินค้าอุปโภคที่ไม่ใช่อาหารในบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม (V-shapes) อาทิเช่น ผลิตภัณฑ์เจลแอลกอฮอล์ในบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ใช้งานง่าย มอบความสะดวกสบาย และคุณภาพสูงสุดแก่ผู้ใช้งาน ซึ่งในอนาคตบริษัทฯ อยู่ระหว่างการขยายไปยังผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เช่น อาหาร ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขอนามัยส่วนบุคคล เป็นต้น

มองเป้ารายได้แตะ 3,000 ลบ.ในปี 67

ดังนั้นบริษัทคาดการณ์ว่าภายในสิ้นปี 2563 รายได้จะอยู่ที่ 1,300-1,400 ล้านบาท และปี 2564 คาดรายได้จะเพิ่มเป็น 1,500-1,600 ล้านบาท พร้อมคาดว่าสัดส่วนรายได้จาก Plant-Based Food จะขยับไปเป็น 30-40 % ในปี 2567 จากปีนี้อยู่ที่ 7 %  (สัดส่วนรายได้ปัจจุบันกว่า 90 % มาจากธุรกิจเดิม Ethnic Food) พร้อมตั้งเป้ารายได้จะแตะ 3,000 ล้านบาท หรือเติบโตเกือบ 3 เท่า ภายในปี 2567 เช่นกัน ซึ่งธุรกิจเดิม Ethnic Food ก็ยังเติบโตต่อเนื่อง เฉลี่ยประมาณ 12 % ต่อปี สำหรับผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกของปี 2563 บริษัทฯ มีรายได้รวม 603.8 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่  41.1 ล้านบาท เติบโตเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 517.4 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 16.3 ล้านบาท

กลุ่มลูกค้าเป้าหมายคือใคร?

กลุ่มธุรกิจ Plant-Based Food หรือ ผลิตภัณฑ์อาหารโปรตีนจากพืช นั้นจัดได้ว่าเป็นธุรกิจเพื่ออนาคตจริงๆ และกำลังเป็นกระแสนิยมของกลุ่มคนรักสุขภาพไม่เพียงเท่านี้ “แดน ปฐมวาณิชย์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ยังให้มุมมองในธุรกิจนี้ไว้อย่างน่าสนใจที่เดียวว่า

 

“เราไม่ได้มาแย่งตลาดจากเจ้าตลาดอาหารในปัจจุบัน…แต่เรากำลังจับกลุ่มอนาคตของประชากรโลกที่กำลังจะเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ซึ่งคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นกว่า 10,000 ล้านคน ในอีก 30 ปีข้างหน้า หรือเติบโตราว 10-15 % ต่อปี”

โรดโชว์ 25 ก.ย.นี้

ล่าสุดบริษัทเตรียมนำเสนอข้อมูลสำหรับนักลงทุนรายย่อย (Retail Investors Roadshow) หรือโรดโชว์ ในวันศุกร์ที่ 25 กันยายน 2563 เวลา 14.00 – 16.00 น.  ลงทะเบียนเพื่อเข้าฟังทางระบบออนไลน์ได้ที่ https://forms.gle/cLRk8Afz5E7FiAXP8 ผ่านช่องทาง Facebook Page Wealthy Thai และ NRF หรือสแกน QR code ด้านล่างเพื่อลงทะเบียนเข้าฟังระบบออนไลน์ เพื่ออัพเดตข้อมูลกับผู้บริหารแบบเรียลไทม์และหากท่านนักลงทุนมีข้อซักถามเพิ่มเติมก็สามารถสอบถามได้ และจะได้รับฟังคำตอบกันแบบสดๆเลยทีเดียวอย่าพลาดเด็ดขาด

www.mitihoon.com