“ซีพี ออลล์” ต่อยอดโมเดลจัดการขยะ “ต้นกล้าไร้ถัง”

143

มิติหุ้น – บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารออลล์ ออนไลน์และเซเว่น อีเลฟเว่น นำภาคีเครือข่ายกลุ่มโรงเรียน และองค์กรภาคประชาสังคม ที่มีความมุ่งมั่นที่จะดูแลเรื่องสิ่งแวดล้อม ศึกษาดูงานการจัดการขยะในโครงการ “ต้นกล้าไร้ถัง” ณ โรงเรียนอนุบาลทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ “โรงเรียน Best Practice” ภายใต้โครงการสานอนาคตการศึกษา CONNEXT ED  ซีพี ออลล์  เรียนรู้ทั้งภาคทฤษฏีและภาคปฏิบัติ ผ่านการบรรยายและถ่ายทอดองค์ความรู้เกี่ยวกับการลดและจัดการกับขยะอย่างยั่งยืนภายในโรงเรียนและชุมชน พร้อมร่วมลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) “ภาคีเครือข่ายต้นกล้าไร้ถัง” จำนวน  4 โรงเรียน ประกอบด้วย โรงเรียนเกาะสมุย, โรงเรียนชุมชนบ้านใต้-เกาะพะงัน, โรงเรียนทีปราษฎร์พิทยา และโรงเรียนเกาะพะงันศึกษา เพื่อบ่มเพาะเยาวชนด้านการจัดการขยะทั้งในโรงเรียนและชุมชนใกล้เคียง

หลังโครงการ “ต้นกล้าไร้ถัง” ประสบความสำเร็จ สามารถลดปริมาณขยะจาก 15 ตันต่อเดือน เหลือ 2 กิโลกรัมต่อเดือน โดยเริ่มที่การจัดการขยะตั้งแต่ต้นทาง ลดและเลิกการใช้สิ่งที่กำลังจะกลายมาเป็นขยะ การนำสิ่งที่คนมองว่าเป็นขยะมารียูส รีไซเคิล การจัดการวัสดุอินทรีย์ การบ่มเพาะนักเรียนในโรงเรียนกว่า 600 คนให้มีส่วนร่วมในการจัดการขยะในชีวิตประจำวันตั้งแต่ต้น จึงเป็น“ศูนย์การเรียนรู้ชุมชน” เปิดกว้างให้ผู้สนใจเข้าศึกษาดูงาน เพื่อเผยแพร่ความรู้ด้านการจัดการขยะไปสู่ชุมชนและโรงเรียนอื่นๆ ด้วย โดยในครั้งนี้ภาคีเครือข่ายกลุ่มโรงเรียนและองค์กรภาคประชาสังคม โดยการนำของ ซีพี ออลล์ ซึ่งดำเนินการในเรื่องของการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ได้ร่วมศึกษาดูงาน พร้อมลงนามสัญญาความร่วมมือด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อนำองค์ความรู้กลับไปต่อยอดการลดจำนวนขยะในพื้นที่ของตัวเองให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

นางสาววิชญาพัส รุจิระ ผู้จัดการมูลนิธิเกาะสีเขียวสมุย กล่าวว่า “ปัญหาขยะในเกาะสมุยเป็นปัญหาที่เรื้อรังมานาน มีทั้งปัญหาขยะที่สะสมและขยะที่เกิดขึ้นใหม่รายวัน ทุกวันนี้ในเกาะสมุยมีขยะเพิ่มขึ้น 150 ตันต่อวัน การได้รับโอกาสมาดูงานในครั้งนี้เหมือนได้เติมไฟให้กับตัวเอง ได้พูดคุยกับคุณครู แม้กระทั่งทีมงานที่เป็นภาคประชาสังคมด้วยกัน ทุกคนตื่นตัวมาก ประทับใจคำพูดจากคุณครูที่มาบรรยายที่ว่า “การที่เราจะจูงใจคนมาร่วม ต้องใช้ความรัก ต้องใช้จิตสำนึกจูงใจ ไม่ได้ใช้เงิน” ทุกคนที่มาในวันนี้ทำด้วยความรัก ทุกคนตั้งใจ กุญแจของความสำเร็จในงานนี้ คือ “เนื้อหา” และ “บุคคล” และเชื่อมด้วยความมีวินัยและความตั้งใจ เมื่อได้เห็นความสำเร็จของโรงเรียนอนุบาลทับสะแก ที่สามารถลดปริมาณขยะจาก 15 ตันเหลือ 2 กิโลกรัม ต่อเดือน ถือว่าเหลือน้อยมาก เราก็แอบหวังว่าจะสามารถทำได้เช่นกัน ในวันนี้ได้เห็นความตั้งใจจริงของคุณครูก็ถือชนะในก้าวที่หนึ่งแล้ว หากเราตั้งใจแล้วไปด้วยกัน แน่นอนว่าอาจจะมีความท้อและอุปสรรค แต่ถ้าเรายังเดินไปด้วยกัน ซีพี ออลล์ก็ยังไปด้วยกับเรา คิดว่าเราจะชนะไปด้วยกัน”

ขณะที่ นางสาวจุฑามาส ซุ่นห้วน ครูชำนาญการโรงเรียนทีปราษฎร์พิทยา กล่าวว่า “โรงเรียนทีปราษฎร์พิทยา มีนักเรียนจำนวนมาก ทำให้จำนวนของขยะมีมาก ทางโรงเรียนก็มีเรื่องของการกำจัดขยะแต่ก็ยังไม่เป็นรูปธรรมชัดเจน โรงเรียนก็มีการสร้างจิตสำนึกกับของนักเรียนในการคัดแยกขยะ มีกิจกรรม 5ส ให้นักเรียนลงพื้นที่ไปทำความสะอาด กวาดขยะ และแยกขยะ เศษขยะที่เป็นใบไม้ก็จะนำไปใส่ในบ่อหมักใบไม้ ขยะที่เป็นขวดก็จะคัดแยกและนำไปขาย ส่วนขยะประเภทอื่น ๆ ยังไม่มีการจัดการอย่างเป็นรูปธรรม จึงได้เข้าร่วมโครงการ “ต้นกล้าไร้ถัง” ซึ่งถือว่าเป็นโอกาสที่ดี เพื่อที่จะมาเรียนรู้ในเรื่องของการจัดการขยะให้ชัดเจนขึ้น สิ่งที่ได้เรียนรู้จากโรงเรียนอนุบาลทับสะแกมีทั้งเรื่องการจัดการขยะ คัดแยกขยะ ลดจำนวนขยะ เพื่อนำไปปรับใช้ในโรงเรียน ถือว่าเป็นโครงการที่ดีมาก และเป็นโครงการที่ไม่ต้องพึ่งพาคนอื่น เป็นการนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้ เพื่อส่งเสริมเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม กลับไปเราจะสร้างนักเรียนแกนนำด้านการจัดการขยะ ให้ความรู้ สร้างจิตสำนึกเพื่อให้แกนนำ นำแนวคิดเหล่านี้ไปส่งต่อจากภายในโรงเรียนสู่ระดับครอบครัว และสู่ชุมชนต่อไป”

โครงการ “ต้นกล้าไร้ถัง” ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวแห่งความสำเร็จที่ภาคเอกชนและประชาสังคมร่วมแรงร่วมใจกันแก้ปัญหาด้านการจัดการขยะอย่างเป็นรูปธรรม และเป็นต้นแบบการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมให้กับเยาวชน และคนในชุมชน หากในอนาคตสามารถขยายภาคีเครือข่ายเหล่านี้ไปสู่วงกว้าง เราจะสามารถช่วยให้ประเทศกลายเป็นสังคมไร้ขยะได้อย่างแน่นอน

www.mitihoon.com