Gordon Gekko เจ้าของวลี Greed is good จากหนังยอดนิยมสุดคลาสสิกเรื่อง “Wallstreet” แม้ว่าชายคนนี้จะไม่ได้มีตัวตนอยู่จริงบนโลก
แต่กลับเป็นต้นแบบของนักลงทุนในตลาดหุ้นไทยมิใช่น้อย
Greed is good ความโลภของคน ใช้หาเงินให้กับทีมงานของ Gordon Gekko ได้เป็นอย่างดีในด้านที่ไม่ค่อยจะดีซักเท่าไหร่ นั่นคือในภาพยนตร์
มาดูในชีวิตจริงของนักลงทุนไทยกันบ้าง ปี 2563 นี้แหละ
เราจะเห็นว่ามี Big Movement ของตลาดหุ้นเกิดขึ้นหลายครั้งในปี 2563 นี้
ย้อนไปดูสิ่งที่ผ่านมาก็ได้
Feb-Mar จากจุดสูงสุดของต้นปีบริเวณ 1604 ตลาดลงอย่างรวดเร็วในช่วงก่อนวาเลนไทน์ โดยดำดิ่งลงไปทำจุดต่ำสุด 969 บรรยากาศเต็มไปด้วยความหวาดกลัว คนกลุ่มนึงชี้นำตลาดให้น้ำหนักลงต่อไป 500-800 จุด ผลคือตลาดฟื้นแรงไป 1455
Jun-Sep ตลาดรีบาวด์จาก 969 ขึ้นไปที่จุดสูงสุด 1455 มีการชี้ชวนว่าตลาดจะขึ้นต่อเนื่องให้เป้าหมาย 1500-1800 จุด
เมื่อครั้งดัชนีอยู่ในกรอบ 1350-1450 นักลงทุนถูกป้อนข้อมูลว่านี่คือขาขึ้นไม่ใช่รีบาวด์ เราผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว หุ้นขึ้นไม่ต้องการเหตุผล New Normal ไม่ต้องสนใจปัจจัยลบใดๆ สุดท้ายนักลงทุนแห่เข้าซื้อบริเวณจุดพีค ก่อนตลาดจะลงอย่างรวดเร็วจนหลุด 1200 จุดปลายเดือนตุลาคม
Oct-Dec เมื่อตลาดปิดต่ำ 1200 จุดไปเพียงแค่ -5 จุด กลับมีการชี้นำว่าตลาดจะลงต่อเนื่องไป 1150-1100-900 จุด หรือ ต่ำกว่า สร้างความพานิคให้นักลงทุน
แม้จะมีสัญญาณจากเครื่องมือ TD SEQUENTIAL และเหตุผลอื่นๆ เช่น การแข็งค่าของเงินบาท การที่ต่างชาติขายน้อยลง & กลับมาซื้อในตลาด MSCI EM การสะสมสัญญาณ Long Futures จำนวนมากของต่างชาติ แม้จะขายหุ้นก็ตาม
องค์ความรู้นี้สามารถคาดการณ์ได้ว่าบริเวณนี้เป็นจุดเปลี่ยนของการฟื้นตัวรอบใหญ่
แต่กลับมีคนกลุ่มนึงพยายามบิดเบือนให้นักลงทุนทำตรงกันข้ามกับสัญญาณจนสร้างความเสียหายถูก Force Sell ในที่สุด
เค้าไม่รู้หรือเค้าตั้งใจกันเล่า
หากไม่รู้ตั้งตนเป็นผู้รู้ไปแนะนำย่อมมีความผิด
หากรู้แล้วยังบิดเบือนหาผลประโยชน์จากความโลภความกลัวของคนแย่ยิ่งกว่าผิด
หากแนะนำให้นักลงทุนทำเช่นนั้น ใยคนเหล่านั้นกลับไปพูดคุยในกลุ่มของตนว่าได้กำไรมากมาย ทั้งๆที่คำแนะนำนั้นทำให้คนส่วนใหญ่ขาดทุน
โดยม้าเฉียวดูหุ้น The Future
www.mitihoon.com