VPO ผลงานQ4/63พลิกกำไร ราคาปาล์มพุ่งรอบ 10 ปี

866

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.วิจิตรภัณฑ์ปาล์มออยล์ หรือ VPO ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำมันปาล์มดิบ และผลพลอยได้จากการผลิตน้ำมันปาล์มดิบ รวมถึงธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากของเสีย หรือสิ่งเหลือใช้จากกระบวนการสกัดน้ำมันปาล์มดิบ โดยแหล่งข่าวนักวิเคราะห์ ระบุว่า ช่วงไตรมาส 4/63 ถือเป็นช่วงไฮซีซันของธุรกิจ เนื่องจากราคาน้ำมันปาล์มดิบปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องนับจากช่วงปลายไตรมาส 3/63 เป็นต้นมา ซึ่งเป็นผลมาจากภาครัฐมีนโยบายส่งเสริมการส่งออกน้ำมันปาล์มดิบ ทำให้ราคาน้ำมันปาล์มดิบปรับตัวสูง บวกกับเป็นช่วงที่สถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย จึงส่งผลให้ราคาปาล์มดิบปรับตัวพุ่งสูงในรอบ 10 ปี นับตั้งแต่ปี 2554 และจะเป็นปัจจัยหนุนให้ผลประกอบการไตรมาส4/63 พลิกกลับมาบวกได้

ปัจจัยบวกหนุนQ4ลุ้นพลิกบวก

นอกจากนี้ บริษัทยังมีการรับรู้รายได้จากธุรกิจไฟฟ้าที่จ่ายไฟเข้าระบบอย่างต่อเนื่อง ประกอบด้วย โครงการโรงไฟฟ้าที่ชุมพร ขนาดกำลังผลิต 8.4 MW , โครงการโรงไฟฟ้าทุ่งคา 2.8 MW และโครงการโรงไฟฟ้าที่ท่าแซะ 5.6 MW จากปัจจัยต่างๆ มองว่าผลงานในไตรมาส4/63 ของ VPO จะเติบโตกว่าช่วงไตรมาสอื่น และน่าจะเป็นกำไรได้จากก่อนหน้าที่มีผลการดำเนินงานเป็นขาดทุนมาโดยตลอด ทั้งนี้ประเมินราคาหุ้นมีโอกาสปรับตัวทดสอบแนวต้านที่ 1 บาท

ราคาน้ำมันปาล์มดิบปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง
ด้านนายกฤษดา ชวนะนันท์ กรรมการผู้จัดการ VPO เผยว่า ปัจจัยที่มีผลต่อการดำเนินงานและฐานะทางการเงินของบริษัทในอนาคตนั้น นับจากไตรมาส3/63 ที่มีการรับซื้อปาลม์ดิบจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.)และมีการส่งออกน้ำมันปาลม์ดิบเป็นจำนวนมาก ซึ่งช่วยดูดซับอุปทานส่วนเกินทำให้สต็อกในประเทศเริ่มปรับตัวลดลง นอกจากนี้รัฐบาลมีการประกาศนโยบายส่งเสริมการส่งออกน้ำมันปาลม์ดิบ โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคม 2564 ดังนั้นจากปัจจัยดังกล่าวจึงทำให้ราคาน้ำมันปาลม์ดิบในประเทศปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงปลายไตรมาส

รับอานิสงส์เชิงบวกโควิด

ขณะที่การระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ประเทศอินโดนีเซียและมาเลเซียอยู่ในภาวะขาดแคลนแรงงาน ทำให้มีสต็อกสินค้าต่ำกว่าปกติ (โดยปกติมาเลเซียจะมีสต็อกน้ำมันปาล์ม ประมาณ 2 ล้านตัน แต่ ณ สิ้นเดือน ก.ย. 2563 สต็อกน้ำมันปาล์มของมาเลเซียอยู่ที่ 1.73 ล้านตัน) ส่งผลให้ราคาน้ำมันปาล์มมีแนวโน้มสูงขึ้น

ส่วนในไตรมาส 4/63 ราคาน้ำมันปาล์มสามารถปรับตัวสูงขึ้นได้จากการปรับลดดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทานของน้ำมันปาล์มในประเทศ จากคาดว่าอุปทานภายในประเทศจะเริ่มลดลงจากปริมาณผลปาล์มที่มีแนวโน้มลดลง โดยสำนักงาน สศก. ประมาณการผลปาล์มคงเหลือ 16.36 ล้านตัน ในปี 63 ในขณะที่อุปสงค์ด้านการบริโภคและพลังงานคาดว่าจะขยายตัวเล็กน้อยจากการเข้าสู่ช่วงเทศกาลท่องเที่ยว จึงทำให้อุปทานอาจจะไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้ในแต่ละเดือน ส่งผลให้ภาพรวมสต็อกของน้ำมันปาล์มมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง

www.mitihoon.com