MK Restaurant (M) บาดแผล ไกลหัวใจ

662

มิติหุ้น-จากบทวิเคราะห์บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า MK Restaurant (M) บาดแผล ไกลหัวใจ

ประเด็นการลงทุน

คาดบริษัทมีกำไร 4Q63 ที่ 320ลบ.(-51%YoY, -31%QoQ) จากผลกระทบ 2nd Waveทำรายได้ -2%QoQ, GPM -30bps QoQ สวนทางกับค่าเช่าที่เป็นขาขึ้น SG&A/Sales +320bps กดดันอัตรากำไรลดลง รวมถึงการยังไม่เห็นสัญญาณฟื้นใน MTD ปี 64 คาดเป็นปัจจัยกดดันราคาหุ้นระยะสั้น อย่างไรก็ดี พื้นฐานระยะยาวบริษัทไม่ได้เปลี่ยนไป การมีสถานะทางการเงิน และ แบรนด์ที่แข็งแกร่ง คาดจะทำให้บริษัทสามารถผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปได้ไม่ยาก โดยเราปรับประมาณการกำไรปี 63-65 ลงสะท้อนภาพการฟื้นตัวที่ช้ากว่าคาด และปรับราคาเป้าหมายลงเป็น 62 บาท จาก 65บาท แต่ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” จากพื้นฐานบริษัทไม่ได้เปลี่ยน เป็นโอกาสสำหรับการลงทุนระยะยาว

 

โควิดทำพิษ ฉุดกำไรระยะสั้น น่าผิดหวัง

คาดกำไร 4Q63-1Q64 ที่อ่อนแอจะกดดันราคาหุ้นในระยะสั้น จากแนวโน้มยอดขายต่อสาขาเดิม (SSSG) และต้นทุนค่าเช่าที่วิ่งสวนทางกัน เป็นปัจจัยกดดันอัตรากำไร จากคาดบริษัทมี SSSG ที่ -15%, -21% และ -40% ใน 3Q63, 4Q63 และ 3 สัปดาห์แรกของปีตามลำดับ สวนทางกับต้นทุนค่าเช่าที่ได้รับส่วนลดน้อยลงเรื่อยๆที่ -30%, -15% และ -10-15% ใน 3Q63, 4Q63 และ 3 สัปดาห์แรกของปีตามลำดับ แต่คาด Sentiment การบริโภคจะเริ่มกลับมาอีกครั้งในช่วง 2-3Q64  ด้วย Outlook การทยอยเปิดเมือง และวัคซีนเริ่มเดินหน้าฉีด

 

พื้นฐานระยะยาวไม่ได้เปลี่ยน

2nd Wave ไม่ได้ทำให้พื้นฐานระยะยาวบริษัทเปลี่ยน เพียงแต่ทำให้ภาพการฟื้นตัว      ดีเลย์ออกไป และยังเป็นสถานการณ์ที่บริษัทเปิดร้านแบบมีกำไร ไม่ขาดทุนเหมือน 2Q63 อีกทั้งคาดบริษัทจะสามารถฝ่าวิกฤตครั้งนี้ไปได้ไม่ยากจาก (1)สภาพคล่องที่แข็งแกร่งมาก ใน Worst case สามารถทนการปิดร้านได้มากกว่า 1 ปี (2)มีแบรนด์ที่โดดเด่นกว่ากลุ่ม เมื่อสถานการณ์ดีขึ้น จะกลับมาได้ไวกว่ากลุ่มอย่างที่เราได้เห็นตัวอย่างไปแล้วใน 3Q63 และ (3)สถานการณ์ที่ยืดเยื้อ จะทำให้คู่แข่งที่สายป่านไม่ยาวพอลดลงในระยะสั้น และเป็นโอกาสการได้ M&A ร้านอาหารอื่นในราคาถูก

Valuation

คงคำแนะนำ”ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 62 บาท (ปรับลงจาก 65 บาท) ด้วยวิธี DCF (WACC 9%, G.2%) โดยเราปรับกำไรลง 25%, 19% และ 9% ในปี 63-65 ตามลำดับ และปรับคาดปันผลปี 63 จาก 1.78 เหลือ 1.3 บาท (Div. Yield 2.6% ที่ราคาปัจจุบัน) เพื่อสะท้อนภาพกำไรที่ฟื้นช้ากว่าคาด โดยนักลงทุนระยะสั้นอาจรอดูสัญญาณฟื้นตัวของ SSSG ขณะที่นักลงทุนระยะยาวมองเป็นโอกาสสะสมหุ้นในราคา Discount จังหวะที่โดนผลกระทบระยะสั้น แต่มีศักยภาพในการกลับมา และพื้นฐานระยะยาวไม่ได้เปลี่ยน

www.mitihoon.com