บลจ.ไทยพาณิชย์ โชว์บริหารกองอสังหาฯ – โครงสร้างพื้นฐาน Q1 ปี 64 จ่ายปันผลและลดทุนกว่า 3,600 ล้านบาท มองหลายกลุ่มธุรกิจเริ่มทยอยปรับตัวจาก COVID-19

48


มิติหุ้น – นายณรงค์ศักดิ์ ปลอดมีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียมจ่ายเงินปันผล กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานภายใต้การบริหารงานสำหรับไตรมาสที่ 
1/2564 จากงวดผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 ม.ค. 2564 – 31 มี.ค. 2564 และ/หรือกำไรสะสม จำนวน 5 กองทุน และจ่ายลดทุนจำนวน 1 กองทุน รวมมูลค่าทั้งสิ้นกว่า 3,600 ล้านบาท

ประกอบด้วย กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ประเภทอาคารสำนักงานให้เช่าจำนวน 3 กองทุน ได้แก่ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์แสนสิริ ไพร์มออฟฟิศ (SIRIP) ลงทุนในกรรมสิทธิ์ในโครงการอาคารสิริภิญโญ จ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.0500 บาทต่อหน่วย นับเป็นครั้งที่ 27 รวมจ่ายเงินปันผล 3.7031 บาทต่อหน่วย (นับตั้งแต่วันที่จ่ายปันผลครั้งแรกเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2557) กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไพร์มออฟฟิศ (POPF) ลงทุนในอาคารสมัชชาวานิช 2 อาคารเพลินจิต เซ็นเตอร์ และอาคารบางนา ทาวเวอร์ กำหนดจ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.2470 บาทต่อหน่วย นับเป็นครั้งที่ 40 รวมจ่ายเงินปันผล 10.2258 บาทต่อหน่วย (นับตั้งแต่วันที่จ่ายปันผลครั้งแรกเมื่อวันที่ 7 ก.ย. 2554) โดยทั้ง 2 กองทุน มีกำหนดจ่ายปันผลในวันที่ มิถุนายน 2564 นี้ และกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ CPN คอมเมอร์เชียล โกรท (CPNCG) ลงทุนในสิทธิการเช่าของอาคารสำนักงานให้เช่าบริเวณเขตปทุมวัน จ่ายปันผลในอัตรา 0.2515 บาทต่อหน่วย นับเป็นครั้งที่ 34 รวมจ่ายเงินปันผล 7.7926 (นับตั้งแต่วันที่จ่ายปันผลครั้งแรกเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2556) โดยกำหนดจ่ายปันผลในวันที่ มิถุนายน 2564 นี้

นอกจากนี้ ยังมีกองทุนอสังหาฯ ประเภทโรงงานและคลังสินค้า จำนวน 1 กองทุน ได้แก่ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ปิ่นทอง อินดัสเตรียล ปาร์ค (PPF) ลงทุนในโรงงานและคลังสินค้าให้เช่าบริเวณเขตพื้นที่ EEC (โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกกองทุนมีผลประกอบการที่มั่นคงต่อเนื่อง อีกทั้งราคาของหุ้นของกองทุนค่อนข้างมีเสถียรภาพในสภาวะตลาดหุ้นปัจจุบันที่มีความผันผวนสูง โดยกำหนดจ่ายปันผลในอัตรา 0.1750 บาท/หน่วย นับเป็นการจ่ายปันผลครั้งที่ 27 รวมจ่ายเงินปันผล 5.0845  บาทต่อหน่วย (นับตั้งแต่วันที่จ่ายปันผลครั้งแรกเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2557)

กองทุนโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม 1 กองทุน ได้แก่ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ดิจิทัล (DIF) ลงทุนในทรัพย์สินด้านโทรคมนาคม โดยรายได้หลักของกองทุนมาจากสัญญาให้เช่าทรัพย์สินเสาโทรคมนาคม และสาย Fiber Optic Cable ระยะยาว กับกลุ่มบริษัททรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) ซึ่งทางกองทุนได้รับค่าเช่าครบถ้วนและต่อเนื่องมาตลอด ส่งผลให้มีผลประกอบการที่ดีสม่ำเสมอ เห็นได้จากการจ่ายเงินปันผลในอัตราที่ 0.2610 บาทต่อหน่วย ติดต่อกันเป็นไตรมาสที่  ซึ่งเป็นไปตามแผนการดำเนินงานที่คาดการณ์ไว้ สำหรับการจ่ายปันผลครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 29 รวมจ่ายปันผลแล้วทั้งสิ้น 7.1694  บาทต่อหน่วย (นับตั้งแต่วันที่จ่ายปันผลครั้งแรกเมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2557) โดยทั้ง กองทุน กำหนดจ่ายปันผลในวันที่ มิถุนายน  2564 นี้

พร้อมกันนี้ได้จ่ายเงินลดทุนจำนวน 1 กองทุน เป็นกองทุนอสังหาฯ ประเภทโรงแรม ได้แก่ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เอราวัณ โฮเทล โกรท (ERWPF) ที่ลงทุนในโรงแรมไอบิส ป่าตอง และโรงแรมไอบิส พัทยา เป็นการจ่ายเงินลดทุนในอัตรา 0.0946 บาทต่อหน่วย เพื่อเป็นการจ่ายคืนสภาพคล่องส่วนเกินจากกรณีที่กองทุนมีการรับรู้รายการการขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงเนื่องจากการลดลงของราคาการสอบทานค่าทรัพย์สิน ซึ่งเป็นรายการทางบัญชีที่ไม่ได้มีกระแสเงินสดจ่ายออกไปจริง โดยกำหนดจ่ายปันผลในวันที่ มิถุนายน  2564 นี้เช่นเดียวกัน

www.mitihoon.com