JKN กำไรQ2ลดฮวบ 28% เหตุลูกค้า 2 รายใหญ่ลดซื้อลิขสิทธิ์หนัง

401

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย (JKN) โดยนายจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ เปิดเผยว่ากำไร Q2/64 ที่ 61.28 ลบ. ลดฮวบ 28 % จาก Q2/63 ที่ 84.989 ลบ. ส่งผลให้งวด 6 เดือนที่มีกำไร 160.79 ลบ. ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร 180.25 ลบ.

โดยมีสาเหตุมาจากการเพิ่มขึ้นของต้นทุนทางการเงินที่เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนเท่ากับ 21.64 ลบ. หรือคิดเป็น 27.79 % โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเพิ่มขึ้นของเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินและการออกจำหน่ายหุ้นกู้เพิ่มในระหว่างงวดเพื่อใช้ในการซื้อกิจการ ซึ่งจากเหตุผลที่กล่าวไปส่งผลให้อัตราส่วนรายได้รวมต่อกำไรสุทธิ(อัตรากำไรสุทธิ) สำหรับงวดหกเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย.64 และ 63 พบว่าปรับตัวลดลงจาก 19.66 % เป็น 17.77 % และอัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเมื่อเทียบกับรายได้รวมสำหรับงวดหกเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย. 64 และ 63 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 11.64 % เป็น 14.75 % โดยการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวสาเหตุมาจากบริษัทมีการโฆษณาทางสื่อออนไลน์เพิ่มมากขึ้นโดยเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ซึ่งเดิมบริษัทเน้นประชาสัมพันธ์ในรูปแบบจัดงานและสื่อพิมพ์ต่างๆ

สำหรับกำไรสุทธิต่อหุ้นนั้นเมื่อพิจารณาเปรียบเทียบระหว่างราคาใช้สิทธิแปลงสภาพของหุ้นกู้แปลงสภาพกับมูลค่า
ยุติธรรมของหุ้นสามัญของบริษัทจะพบว่ามูลค่ายุติธรรมสูงกว่าราคาใช้สิทธิ (อ้างอิงจากราคาราคาปิดของหุ้นบริษัท ณ วันที่ 30 มิ.ย.64 อยู่ที่ 10.10 บาทต่อหุ้น ในขณะที่ราคาใช้สิทธิอยู่ที่ประมาณ 6.7 บาทต่อหุ้น) ทำให้มีความเป็นไปได้ที่ผู้ถือหุ้นกู้แปลงสภาพจะใช้สิทธิในการแปลงสภาพดังกล่าว จึงมีการคำนวณกำไรสุทธิต่อหุ้นปรับลด

สำหรับรายได้รวมงวดหกเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2564 บริษัทและบริษัทย่อยเท่ากับ 900.34 ล้านบาท
ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนเท่ากับ 16.32 ล้านบาท หรือคิดเป็นลดลงร้อยละ 1.78 ทั้งนี้รายได้ของบริษัทและบริษัทย่อยในแต่ละธุรกิจสำหรับงวดหกเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย.64 มีการเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับรายได้ประเภทเดียวกันจากปีก่อน ดังนี้(1) รายได้ค่าสิทธิจากธุรกิจให้บริการและจำหน่ายลิขสิทธิ์รายการ ลดลงเท่ากับ3.32% (2) รายได้จากการให้บริการจากธุรกิจบริการโฆษณา ลดลงเท่ากับ 7.12 % (3) รายได้จากการขายจากธุรกิจจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพิ่มขึ้นเท่ากับ 100 % และในขณะที่ (4) รายได้อื่นเพิ่มขึ้นเท่ากับ 14.56 %

โดยมีรายได้ค่าสิทธิเท่ากับ 834.55 ลบ. โดยสามารถจำแนกได้เป็นการจำหน่ายในประเทศและต่างประเทศเป็นจำนวน 489.16 ลบ. และ 345.39 ลบ. ตามลำดับ โดยคิดเป็นสัดส่วน 58.61 % และ 41.39 % (2563:  72.65 % และ 27.35 %) ของรายได้ค่าสิทธิซึ่งลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนเป็นจำนวน 28.64 ลบ. คิดเป็นลดลง 3.32 % โดยมีสาเหตุหลักมาจากลูกค้ารายใหญ่ในประเทศสองรายที่ซื้อลิขสิทธิ์รายการที่เผยแพร่ผ่านการออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ระบบเคเบิลและดาวเทียม หรือ Cabsat และเผยแพร่ผ่านการออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ระบบดิจิตอล หรือ DTT ซึ่งทำการซื้อขายกับบริษัทเป็นจำนวนมากในปีที่แล้วแต่ลดรายการซื้อในปีนี้ลงจากการที่ลิขสิทธิ์รายการที่ได้รับไปนั้นยังไม่ครบกำหนดสัญญาและยังมีปริมาณที่มากพอที่จะเผยแพร่ในช่องทางของตน ในขณะเดียวกันนั้นมีลูกค้ารายใหญ่ในประเทศรายหนึ่งที่ซื้อลิขสิทธิ์รายการที่เผยแพร่ผ่านการออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ระบบดิจิตอล หรือ DTT มีรายการซื้อกับบริษัทเป็นจำนวนมากขึ้นในปีนี้เนื่องจากสิทธิที่เคยซื้อไปครบกำหนดสัญญาแล้วจึงกลับมาซื้อกับบริษัทอีกครั้ง

 

🚩🚩ห้อง Official Line ห้องไลน์ฟรี มิติหุ้น ทันทุกสถานการณ์การลงทุน หุ้นเด่น หุ้นเด็ดตลอดวัน กับห้องไลน์ @mitihoonwealth ห้องไลน์ที่นักลงทุนเข้าเป็นสมาชิกฟรี ไม่มีเงื่อนไข เพียงคลิกลิงค์นี้ก็เข้าได้เลย และสามารถส่งต่อให้เพื่อนได้

https://lin.ee/cXAf0Dp