PREB โหวตหนุนจ่ายปันผลปี 64 อัตรา 0.40 บ.ต่อหุ้น

32

 

มิติหุ้น    –  ผู้ถือหุ้น บมจ.พรีบิลท์ (PREB) เทคะแนนเสียงรับมติจ่ายเงินปันผลประจำปี 2564 เป็นเงินสดอัตรา 0.40 บาทต่อหุ้น เตรียมรับทรัพย์ 20 พ.ค.นี้ พร้อมอนุมัติวงเงินออกหุ้นกู้ประเภทมีหลักประกันหรือไม่มีหลักประกัน มูลค่าไม่เกิน 1,000 ล้านบาท ฟาก”วิโรจน์ เจริญตรา”ระบุปัจจุบันมีงานในมือรอรับรู้รายได้กว่า 8,000 ล้านบาท เดินหน้ารับรู้รายได้ทั้งจากธุรกิจรับเหมาก่อสร้างและธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เล็งรุกขยายลงทุนธุรกิจ กัญชง กัญชา และธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล หนุนผลงานปีนี้โตทะลุเป้าระดับ 20%

นาย วิโรจน์ เจริญตรา กรรมการผู้จัดการ บริษัท พรีบิลท์ จำกัด (มหาชน) หรือ PREB เปิดเผยว่าที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2565ได้อนุมัติให้บริษัทฯจ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานปี2564 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะในปี 2564จำนวน 344.03 ล้านบาท หรือคิดเป็นกำไร 1.115 บาทต่อหุ้น และมีกำไรสุทธิตามงบการเงินรวมในปี 2564 จำนวน 241.62 ล้านบาท หรือ คิดเป็นกำไร 0.783 บาทต่อหุ้น

ทั้งนี้ ให้จ่ายเป็นเงินสด ในอัตราหุ้นละ 0.40 บาท หรือเป็นจำนวนไม่เกิน 123.47 ล้านบาทรวมเป็นจ่ายปันผลในอัตราหุ้นละ 0.40 บาท หรือ 35.87%  โดยจะกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผลในวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2565และกำหนดจ่ายเงินปันผลดังกล่าวภายในวันที่ 20 พฤษภาคม 2565

รวมทั้งมีมติอนุมัติการออกและเสนอขายหุ้นกู้ประเภทมีหลักประกันหรือไม่มีหลักประกัน โดยมีหรือไม่มีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้สกุลเงินบาท และ/หรือเงินสกุลอื่น มูลค่ารวมหุ้นกู้ วงเงินไม่เกิน 1,000,000,000 บาท อายุ ไม่เกิน 5 ปี นับแต่วันออกหุ้นกู้

“การจ่ายเงินปันผลในครั้งนี้เพื่อเป็นขอบคุณผู้ถือหุ้นที่มีความเชื่อมั่นต่อการบริหารงานของบริษัทตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ซึ่งแม้ต้องเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ยังสามารถรักษาความสามารถในการทำกำไรไว้ได้ และเชื่อว่าในปี 2565 ยังมีทิศทางที่ดีขึ้น ซึ่งจะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นได้อีกเช่นกัน”นายวิโรจน์กล่าว

สำหรับภาพรวมการดำเนินธุรกิจในปี 2565 ภาวะอุตสาหกรรมรับเหมาก่อสร้างยังคงมีการฟื้นตัวได้ในระดับที่ค่อยเป็นค่อยไป แต่อุตสาหกรรมพัฒนาอสังหาริมทรัพย์มีสัญญาณการเติบโตที่ชัดเจน ซึ่งบริษัทฯ มองว่า จะทำให้ธุรกิจของบริษัทพรีบิลท์ ดีเวลลอปเม้นท์ จะมีอัตราการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ  โดยบริษัทฯ  ตั้งเป้ารายได้เติบโตไม่น้อยกว่า 20% จากปีก่อน โดยสัดส่วนรายได้จะมาจากธุรกิจหลักรับเหมาก่อสร้าง 70% อสังหาริมทรัพย์ 20% และ PCM ประมาณ 10% และในปัจจุบัน บริษัทฯมีงานในมือรอรับรู้รายได้(Backlog) อยู่ที่ประมาณ 8 ,000 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีแผนจะเดินหน้าเข้าประมูลงานใหม่ โดยปัจจุบันได้รุกขยายไปยังโครงการอาคารสำนัสมสมกงาน โรงแรม และโรงพยาบาล ซึ่งจะเน้นในส่วนของโครงการที่เป็นของหน่วยงานราชการมากขึ้นฃ

@mitihoonwealth

https://lin.ee/cXAf0Dp