วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน

68

ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม หลังตลาดกังวลอุปทานน้ำมันดิบตึงตัว

+ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้น จากการที่ตลาดกังวลอุปทานน้ำมันยังคงตึงตัว หลังซาอุดิอาระเบียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ที่อาจไม่สามารถเพิ่มการผลิตขึ้นได้อีกมากนัก เนื่องจากการผลิตน้ำมันใกล้เต็มศักยภาพตามโควต้าที่ 3.168 ล้านบาร์เรลต่อวัน ขณะเดียวกัน การประชุมผู้นำ G7 เห็นพ้องที่จะหาทางจำกัดเพดานราคาน้ำมันของรัสเซียในตลาดโลกจากการที่ราคาน้ำมันเพิ่มสูงขึ้นจนนำไปสู่ภาวะเงินเฟ้อ นอกจากนี้ภาวะความไม่สงบทางการเมืองในเอกวาดอร์และลิเบียยังคงส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำมันที่ลดลง

– นักลงทุนจับตาการประชุมของกลุ่มโอเปกพลัส ในวันที่ 30 มิ.ย. หลังจากมีมติเพิ่มกำลังการผลิต 648,000 บาร์เรลต่อวันในเดือนก.ค.และ ส.ค. อีกทั้งติดตามผลการเจรจาตามข้อตกลงนิวเคลียร์ระหว่างสหรัฐฯ และอิหร่านในวันนี้ ซึ่งอาจปูทางให้อิหร่านกลับมาส่งออกน้ำมันสู่ตลาดโลก

+ หลังตลาดปิด สถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานสหรัฐฯ (API) เผยตัวเลขน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์ สิ้นสุด ณ วันที่ 24 มิ.ย. 65 ปรับตัวลดลงกว่า 3.8 ล้านบาร์เรล ขณะที่ปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังปรับเพิ่มขึ้น 2.9 ล้านบาร์เรล และสำหรับปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังปรับเพิ่มขึ้น 2.6 ล้านบาร์เรล

ราคาน้ำมันเบนซิน – ปรับตัวลดลงสวนทางราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังราคาน้ำมันเบนซินที่อยู่ในระดับสูงกดดันให้ความต้องการใช้ในภูมิภาคมีแนวโน้มปรับลดลง อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงได้รับแรงหนุนจากดัชนีการขับขี่ที่ฟื้นตัวจากการผ่อนคลายมาตรการการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 และการเปิดพรมแดนในหลายประเทศ

ราคาน้ำมันดีเซล – ปรับตัวลดลงสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงกดดันจากปริมาณการส่งออกของอินเดียที่มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม อุปสงค์การใช้น้ำมันดีเซลในภูมิภาคที่สูงขึ้นส่งผลให้อุปทานในตลาดยังคงตึงตัว แม้ว่าอัตราการกลั่นของโรงกลั่นจะปรับตัวเพิ่มขึ้นก็ตาม

หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ. ไทยออยล์

 

@mitihoonwealth
https://lin.ee/cXAf0Dp