TPCH ส่งสัญญาณผลงานครึ่งปีหลังโตต่อ จ่อ COD โรงไฟฟ้าชีวมวลเพิ่มอีก 2 แห่ง มั่นใจปี 65 รายได้เติบโต 30-40% ตามเป้า

131

มิติหุ้น – TPCH ประเมินแนวโน้มผลงานครึ่งปีหลังยังสดใส เตรียม COD โรงไฟฟ้าชีวมวลเพิ่มอีก 2 แห่ง ภายในปีนี้ ดันกำลังการผลิตพุ่งแตะ 122 เมกะวัตต์ จากเดิม 116.3 เมกะวัตต์ ส่วนรายได้ปีนี้คาดเติบโต 30-40% ตามแผนงานที่วางไว้

นางกนกทิพย์ จันทร์พลังศรี ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (TPCH) ประกอบธุรกิจหลักโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ที่ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในช่วงครึ่งปีหลัง คาดว่า ยังมีทิศทางที่ดี เนื่องจากบริษัทฯ เตรียมที่จะ COD โรงไฟฟ้าประชารัฐชีวมวล แม่ลาน กำลังการผลิตรับซื้อไม่เกิน 2.85 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าประชารัฐชีวมวล บันนังสตา กำลังการผลิตรับซื้อไม่เกิน 2.85 เมกะวัตต์ ซึ่งขณะนี้มีความคืบหน้าในการก่อสร้างประมาณ 68% คาดว่าจะสามารถ COD ได้ภายในปีนี้ รวมทั้ง จากการทยอยรับรู้รายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ของโครงการโรงไฟฟ้า รวม 11 แห่ง ประกอบด้วย โครงการโรงไฟฟ้าชีวมวล CRB, MWE, MGP, TSG, PGP, SGP , PTG ,TPCH 5 , TPCH 1 ,TPCH 2 และโรงไฟฟ้าขยะ SP มีกำลังการผลิตรวม 116.3 เมกะวัตต์

“บริษัทฯ มีความพร้อมที่จะ COD โรงไฟฟ้าประชารัฐชีวมวลเพิ่มอีก 2 แห่ง ซึ่งขณะนี้กำลังเร่งดำเนินการก่อสร้าง เพื่อเป้าหมายการมีกำลังการผลิตรวมที่ 122 เมกะวัตต์ จากเดิมที่มีกำลังการผลิตรวม 116.3 เมกะวัตต์ นอกจากนี้ โครงการที่อยู่ระหว่างการปรับจูนเครื่องจักรก็มีความสามารถผลิตไฟฟ้าได้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมั่นใจว่า จะเป็นส่วนช่วยในการสนับสนุนให้ผลงานในปีนี้เติบโตที่ระดับ 30-40% จากปีก่อน” นางกนกทิพย์กล่าว

ด้านนายเชิดศักดิ์ วัฒนวิจิตรกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (TPCH) กล่าวว่า  บริษัทฯ มีเป้าหมายการมีกำลังการผลิตรวม 250 เมกะวัตต์ แบ่งออกเป็น โรงไฟฟ้าประเภทเชื้อเพลิงชีวมวล ชีวภาพ ขนาด 200 เมกะวัตต์  และโรงไฟฟ้าประเภทเชื้อเพลิงขยะ 50 เมกะวัตต์ ภายในปี 2566 พร้อมทั้ง มุ่งพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าขยะอีกประมาณ 4-6 แห่ง ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าขนาดเล็กมาก (VSPP)  คาดว่าจะเห็นความชัดเจนภายในปีนี้ประมาณ 1-2 โครงการ

นอกจากนี้ TPCH ยังให้ความสำคัญในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก จึงได้ดำเนินการ Carbon Creditในรูปแบบของ I-REC (International Renewable Energy Certificate) และในรูปแบบของ T-VER (Thailand Voluntary Emission Reduction Program)  ซึ่งเป็นการขอรับรองเครดิตการผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนและนำ Carbon Credit มาขายเพื่อให้เกิดรายได้ในปีนี้ โดยคาดว่า จะสามารถนำโรงไฟฟ้ารวม 8 แห่ง เข้าร่วมโครงการได้ภายในปี 2565

ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ได้มีการศึกษาและเตรียมความพร้อมในการเข้าประมูลโครงการพลังงานทดแทนจากเชื้อเพลิง ชีวมวล ชีวภาพ ซึ่งคาดว่า ภาครัฐจะเปิดรับซื้อภายในปีนี้  พร้อมทั้ง มีการศึกษา เพื่อพัฒนาและเข้าซื้อกิจการพลังงานทดแทนอีกหลายแห่งทั้งในประเทศและต่างประเทศ อีกทั้ง ยังศึกษาธุรกิจที่สามารถต่อยอดจากโครงการพลังงานทดแทน เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีขึ้นให้กับผู้ถือหุ้นและบริษัทฯได้ในอนาคต

ขณะที่ ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ งวดไตรมาส 1/65 (สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2565) บริษัทฯ มีรายได้รวม 625.52 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.5% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน มีรายได้รวม 566.18 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 36.99 ล้านบาท

 

 

@mitihoonwealth
https://lin.ee/cXAf0Dp