“ซิตี้แบงก์” คว้ารางวัลธนาคารยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย ปี 2022 พร้อมควบอีก 2 รางวัล ด้านการเงินและบริการธุรกรรม จากยูโรมันนี่

41

มิติหุ้น – ซิตี้แบงก์ ตอกย้ำศักยภาพการเป็นธนาคารชั้นนำที่มีเครือข่ายทั่วโลก ล่าสุดคว้ารางวัล “ธนาคารยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย ประจำปี 2022” (Asia’s Best Bank for 2022) รวมถึงรางวัล “ธนาคารที่ดีที่สุดด้านการเงิน” (Best Bank for Financing) และรางวัล “ธนาคารที่ดีที่สุดด้านบริการธุรกรรม” (Best Bank for Transaction Services) ประจำภูมิภาคเอเชีย จากงานประกาศรางวัล Euromoney Awards for Excellence 2022  ซึ่งรางวัลทั้งหมดสะท้อนให้เห็นถึงความโดดเด่นของซิตี้ในการเป็นธนาคารดิจิทัลที่สนับสนุนการเติบโต และช่วยเหลือในด้านบริการทางการเงินที่หลากหลายสำหรับกลุ่มลูกค้าองค์กรและสถาบันที่ดำเนินธุรกิจอยู่ในภูมิภาคดังกล่าวได้เป็นอย่างดี

มร.ปีเตอร์ บาเบจ ประธานกรรมการบริหาร ซิตี้ เอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า “ซิตี้มีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนในการเป็นพันธมิตรด้านการธนาคารที่โดดเด่นสำหรับลูกค้าองค์กรและสถาบันที่มีความต้องการทำธุรกรรมด้านการเงินและธนาคาร ข้ามพรมแดน รวมถึงการเป็นผู้นำด้านการบริหารความมั่งคั่ง โดยการได้รับรางวัลล่าสุดจากนิตยสารยูโรมันนี่ ได้สะท้อนให้เห็นถึงภาพลักษณ์ของซิตี้ในด้านการเป็นธนาคารที่ดีที่สุดในเอเชีย รวมถึงแสดงให้เห็นถึงการยอมรับอย่างโดดเด่นของการดำเนินกลยุทธ์ รวมถึงการอุทิศตนในการดำเนินงานอย่างยอดเยี่ยมของทีมซิตี้ และเป็นการเฉลิมฉลองการดำเนินธุรกิจของซิตี้ครบรอบ 120 ปีในภูมิภาคเอเชีย ผมอยากจะขอบคุณลูกค้าของเราสำหรับความไว้วางใจที่ได้มอบให้ซิตี้เสมอมา โดยซิตี้ มีความตื่นเต้น และพร้อมที่จะสนับสนุนการเติบโตของลูกค้าทั่วทั้งเอเชียและทั่วโลกอย่างไม่หยุดนิ่ง”

สำหรับในปีนี้ ซิตี้คว้ารางวัล ธนาคารยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย ประจำปี 2022” (Asia’s Best Bank for 2022) จากงานประกาศรางวัล Euromoney Awards for Excellence 2022 โดยรางวัลดังกล่าวตัดสินโดยบรรณาธิการของนิตยสารยูโรมันนี่ สื่อการเงินชั้นนำของยุโรป ซึ่งมอบให้กับธนาคารในระดับภูมิภาคที่มีความก้าวหน้ามากที่สุดในภูมิภาคในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ในขณะเดียวกันซิตี้ยังได้รับรางวัล “ธนาคารที่ดีที่สุดด้านการเงิน” (Best Bank for Financing) และ ธนาคารที่ดีที่สุดด้านบริการธุรกรรม (Best Bank for Transaction Services) ประจำภูมิภาคเอเชีย อีกด้วย

“ทั้งนี้ เมื่อปี 2564 ที่ผ่านมา ซิตี้สามารถระดมทุนได้กว่า 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากตลาดทุนทั่วโลกสำหรับลูกค้าในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก รวมถึงการจัดหาเงินทุนที่เกี่ยวข้องกับ ESG ประมาณ 3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดของธนาคารตลอดทั้งปี พร้อมกันนี้ซิตี้ได้ประกาศให้ฮ่องกงและสิงคโปร์ เป็นศูนย์กลางความมั่งคั่งระดับโลกสองแห่งของธนาคาร อีกทั้งได้ประกาศแผนการจ้างงานกว่า 3,000 ตำแหน่ง เพื่อรองรับการให้บริการและสนับสนุนลูกค้ากลุ่มองค์กรและสถาบันที่เป็นผู้นำการเติบโตด้านธุรกิจต่าง ๆ ทั่วเอเชียแปซิฟิก นอกจากนี้ซิตี้ยังสามารถเพิ่มทรัพย์สินของลูกค้าใหม่เกือบ           1.5 หมื่นล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ ผ่านศูนย์ Citi Global Wealth ในภูมิภาค และเพิ่มลูกค้าความมั่งคั่งรายใหม่เป็นจำนวนกว่า 14,000 ราย ตลอดจนเพิ่มบัญชีดิจิทัลสำหรับลูกค้าสถาบันใหม่ ๆ เป็นจำนวน 7,500 บัญชีผ่านระบบแพลตฟอร์มธนาคารอิเล็กทรอนิกส์ของซิตี้ หรือ Citi Direct” มร.ปีเตอร์ กล่าว

ด้าน มร.ทีบอร์ พานดิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย กล่าวว่า “ซิตี้มองเห็นแนวโน้มความต้องการใช้งานด้านดิจิทัลของลูกค้าองค์กรและสถาบันในประเทศไทยที่เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก ทำให้ซิตี้เดินหน้าลงทุนในเทคโนโลยี และพัฒนาด้านแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ราบรื่นผ่านระบบอีโคซิสเท็มที่หลากหลายและมีประสิทธิภาพ ที่จะช่วยให้ลูกค้าสามารถขยายธุรกิจได้อย่างมีศักยภาพมากขึ้น ตลอดจนการนำเสนอโซลูชันบริการทางการเงินใหม่ ๆ กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งมอบประสบการณ์ด้านดิจิทัลแบงก์กิ้งที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้าและพันธมิตรของลูกค้า อันเป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นของซิตี้ในการดำเนินธุรกิจสำหรับลูกค้าองค์กรและสถาบันในระยะยาว พร้อมก้าวสู่การเป็นธนาคารดิจิทัลแห่งแรกในไทยอย่างแข็งแกร่ง”

 

@mitihoonwealth
https://lin.ee/cXAf0Dp