วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน

80

ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม หลังปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ปรับตัวลดลง

+ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสและเบรนท์ปรับเพิ่ม หลังสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานตัวเลขน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 23 ก.ย. 2565 ปรับตัวลดลง 0.215 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 430.6 ล้านบาร์เรล ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้น 0.443 ล้านบาร์เรล ขณะที่ปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐฯ ปรับตัวลดลง 2.4  ล้านบาร์เรล ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้น 0.71 ล้านบาร์เรลเช่นกัน สะท้อนถึงอุปสงค์ที่ยังคงแข็งแกร่ง

+ ตลาดได้รับแรงหนุนจากเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ปรับตัวอ่อนค่าลง ส่งผลให้สัญญาน้ำมันดิบมีราคาถูกลง และเพิ่มความดึงดูดสำหรับนักลงทุนที่ถือเงินสกุลอื่นให้มาสนใจลงทุนในสัญญาน้ำมันดิบมากขึ้น

– Goldman Sachs คาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันโลกปรับเพิ่มขึ้น 2 ล้านบาร์เรล ในปี 2566 ต่ำกว่ารายงานครั้งก่อนที่ระดับ 2.5 ล้านบาร์เรล จากความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งอาจส่งผลให้ปริมาณความต้องการใช้น้ำมันชะลอตัวลง

ราคาน้ำมันเบนซิน – ปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังตลาดคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันเบนซินในไต้หวันมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น จากการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ในช่วงกลางเดือน ต.ค.

ราคาน้ำมันดีเซล – ปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากตลาดยังคงกังวลอุปทานตึงตัว หลังตัวเลขปริมาณการผลิตน้ำมันดีเซลของอินเดียในเดือน ส.ค. ปรับตัวลดลง 0.46 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 8.85 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน ก.พ. 65

หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ. ไทยออยล์

 

 

@mitihoonwealth
https://lin.ee/cXAf0Dp