SCN บุ๊กออเดอร์ ‘ธุรกิจกัญชา-กัญชง’ ดันQ4/65โตฉลุย!

112

มิติหุ้น-นายฤทธี กิจพิพิธ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. สแกน อินเตอร์ หรือ SCN เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานใน Q4/65 จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากการรอรับรู้รายได้และกำไรเพิ่มขึ้นใน “ธุรกิจกัญชา-กัญชง” ภายใต้ บริษัทย่อย อย่าง “บริษัท สแกน เมดิเฮิร์บ จำกัด” หลังมีคำสั่งซื้อ (Order) ล็อตที่ 2 กว่า 100 กิโลกรัม ในเดือน พ.ย.65 นี้

อย่างไรก็ตาม บริษัทคาดว่าในอนาคตจะมี Order เป็น 200 – 400 กิโลกรัม เนื่องจากบริษัทมีความสามารถในการปลูกกัญชง แบบ Indoor บนพื้นที่กว่า 3,150 ตารางเมตร ปัจจุบันมีกำลังการผลิตกว่า 200 กิโลกรัมต่อวัน เป็นพื้นที่เพาะปลูกขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศ และเป็นหนึ่งในไม่กี่บริษัทที่ผลิต “กัญชา-กัญชง” เกรดทางการแพทย์ได้

สำหรับ “ธุรกิจวิศวกรรมก่อสร้าง” ปัจจุบันบริษัทมุ่งมั่นรับงานที่ไม่เกี่ยวกับแก๊ส (Non-gas) มากขึ้น โดยใน 2 สัปดาห์ที่จะถึงนี้ บริษัทเตรียมประกาศได้รับงานใหม่  อย่าง โครงการสัญญาเจรจาที่จะปฏิบัติตามข้อเสนอที่เป็นเงื่อนไขนำไปสู่สัญญาผูกผัน (LOI) จากกลุ่ม ปตท. (PTT) หลังชนะการประมูลงานโครงการก่อสร้างปั๊มน้ำมันรูปแบบใหม่ของ บมจ.ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก (OR) มูลค่าหลักร้อยล้านบาท

ขณะที่ “ธุรกิจ Solar Rooftop” บริษัทดำเนินการในรูปแบบโครงการซื้อขายไฟฟ้าภาคเอกชน (Private PPA) ภายใต้บริษัทย่อย คือ “บริษัท สแกนแอดวานซ์ เพาเวอร์ หรือ SAP” มีรายได้เพิ่มขึ้น 30% ตามค่าไฟฟ้าผันแปร (Ft) ปัจจุบันบริษัทมีโรงไฟฟ้าจ่ายเข้าสู่ระบบเชิงพาณิชย์ (COD) และบริษัทยังคงเป้าหมายในการควบรวม หรือ ซื้อกิจการ (M&A) เกี่ยวกับ “ธุรกิจพลังงานจากแสงอาทิตย์” อีก 6 MW  เพื่อให้มีโรงไฟฟ้า COD ครบ 30 MW  ภายในสิ้นปี 65 หรือช้าสุดปี 66

ขณะเดียวกัน ในปลายปี 66 บริษัทวางแผนนำ SAP เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เพื่อสร้างความแข็งแกร่งทางการเงิน และเสริมศักยภาพต้นทุนให้กับธุรกิจ โดยปัจจุบันบริษัทได้แต่งตั้ง “บล.เอเซีย พลัส” เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และเตรียมยื่นแบบคำขอเพื่อเสนอขายหลักทรัพย์ (Filing) แล้ว

ด้าน “โรงไฟฟ้ามินบู” ที่ประเทศเมียนมา ที่มีกำลังการผลิตติดตั้ง 220 MW โดยเฟสแรกมี 50 MW จ่ายไฟเชิงพาณิชย์ (COD) และทยอยรับรู้รายได้ต่อเนื่อง ส่วนเฟส 2 อีก 50 MW ซึ่งอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง คาดว่าจะสร้างเสร็จภายในปลายปี 65 และวางแผนลงทุนอีก 2 เฟสที่เหลือในปี 66

นอกจากนี้ บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมปี 65 ประมาณ 2,000 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 64 ที่ 1,749.29 ล้านบาท ซึ่งในช่วง 6 เดือนแรกปี 65 บริษัทมีรายได้รวม 715.55 ล้านบาท และทำกำไรสุทธินิวไฮที่ 303.58 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 64 ที่ 68.23 ล้านบาท

พร้อมกันนี้ บริษัทสนใจเข้าร่วมประมูลงานโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนของภาครัฐ ซึ่งบริษัทมีความพร้อมในด้านพื้นที่เพื่อลงทุน “โซลาร์ฟาร์ม” กำลังผลิตกว่า 30-40 MW

@mitihoonwealth

https://lin.ee/cXAf0Dp