มิติหุ้น-KAMART โดย “นายพงศ์วิวัฒน์ ทีฆคีรีกุล” ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายงานตลาดและสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ เปิดเผยว่า มั่นใจผลงาน Q4/65 จะเติบโตทำสถิติใหม่สูงสุดแห่งปี เพราะเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น ประกอบการเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว และการจัดโปรโมชั่น หนุนยอดขายสินค้าประเภท “เครื่องสำอางและสินค้าอุปโภค” เพิ่มขึ้นโดดเด่น ดังนั้นทั้งปี 65 มั่นใจรายได้จะเติบโตทำนิวไฮกว่า 30% แตะ 2 พันลบ. เมื่อเทียบปีก่อนที่ 1.5 พันลบ.
ผนึกผู้มีชื่อเสียงเปิดแบรนด์ใหม่
ส่วนปี 66 มั่นใจจะเติบโตต่อเนื่อง เพราะได้รับอานิสงส์ Covid-19 คลี่คลายลง หนุนการบริโภคฟื้นตัวทำให้คนหันมาแต่งหน้ามากขึ้น ซึ่งบริษัทมีแผนออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ จากแบนรด์เก่าที่มีอยู่แล้ว, ร่วมมือกับผู้มีชื่อเสียงในกลุ่ม Premium Mass ในการเปิดตัวแบรนด์ใหม่ประมาณ Q2/66 นี้ และ ทำการตลาด “กลุ่มสกินแคร์” อย่างจริงจัง นอกจากนี้ในปี 66 บริษัทยังมีแผนขยายสาขามากขึ้น จากปัจจุบันมี KARMART SHOP 48 สาขา แบ่งเป็น Standalone Shop 21 สาขา และในโซนห้างสรรพสินค้าชั้นนำ อีก 27 สาขา
ญี่ปุ่น-ตะวันออกกลางป้อนดีล
สำหรับตลาดส่งออก โดยตลาดหลักๆ คือ กลุ่ม CLMV จีน สิงคโปร์ จีน ล่าสุดเพิ่งได้ลูกค้าใหม่ๆในตลาดญี่ปุ่น ,ไต้หวันที่, ตะวันออกกลาง และ ฟิลิปปินส์ คาดจะสร้างยอดขายได้ให้เติบโตมากขึ้น ปัจจุบันสัดส่วนส่งออกคิดเป็น 10% ของรายได้รวม พร้อมกันนี้ในอนาคตมีโอกาสบุ๊กผลงานบ.ย่อย “บ.ป่า ดอนพุทรา” เพราะเริ่มมีรายได้จากการขายหน้าดิน โดยบริษัทมีที่ดินราว 700 ไร่ และมีแผนนำที่ดินไปทำธุรกิจในอนาคตอีกด้วย
Q4กำไรแรง-อัพเป้า9บ.
“บล.กสิกรไทย” เปิดเผยว่า ผลงาน Q4/65 คาดกำไรปกติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 107 ลบ. เพิ่มขึ้น 75% YoY และ 22% QoQ โดยได้แรงหนุนจากยอดขายที่แข็งแกร่งที่ 658 ลบ. (68% YoY และ 30% QoQ) จากทั้งผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและ สกินแคร์ในประเทศไทยและผ่านช่องทางการส่งออก KAMART ได้รับคำสั่งซื้อสำหรับส่งออกจำนวนมากใน Q4/65 จากการเจาะตลาดในไต้หวันที่เพิ่มขึ้นและการส่งออกไปยังฟิลิปปินส์ที่ฟื้นตัวขึ้น
ดังนั้นฝ่ายวิจัยปรับเพิ่มประมาณการกำไรปกติในปี 65/66/67 ขึ้น 31%/14%/11% เป็น 313 ลบ./402 ลบ./430 ลบ. ตามลำดับ ทั้งนี้มีการเปิดตัวแบรนด์ที่ร่วมกับบุคคลที่มีชื่อเสียงอย่างน้อย 3 แบรนด์ใน Q1/65 แนะนำ “ซื้อ” และเพิ่มราคาเป้าหมายขึ้น 24% หรือจาก 7.27 บาท เป็น 9.00 บาท
@mitihoonwealth
