TLI หุ้นประกันโดดเด่น สร้างผลตอบแทนคุ้มค่า

651

กลุ่มธุรกิจดาวเด่นในตลาดหุ้นไทยนับจากนี้ไป หากจะมองเป็นเรื่องของความคุ้มค่าทั้งทางด้านผลตอบแทน ความทนทานต่อปัจจัยเสี่ยงทั้งระยะสั้น และระยะยาว และที่สำคัญจะต้องชนะเงินเฟ้อได้เป็นอย่างดีคงหนีไม่พ้นธุรกิจนี้นั่นก็คือ กลุ่มธุรกิจประกัน และหากจะให้เฉพาะเจาะลงลงไปอีกว่า บริษัทไหนคงต้องยกให้กับ บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ TLI  ซึ่งเพิ่งจะเข้าจดทะเบียนตลาดหุ้นไทยไม่นานมานี้ และพึ่งได้เข้าคำนวณในดัชนี FTSE All World Index ในกลุ่ม Middle Cap ส่งผลให้มีกองทุนต่างประเทศประเภท Passive Fund เข้ามาเพิ่มน้ำหนักลงทุนกว่า 38 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 1,350 ล้านบาท

 

 

โอกาสสร้างกำไรเติบโต

TLI มีมูลค่ามาร์เก็ตแคปกว่า 1.7 แสนล้านบาท (ณ 15 ธ.ค.65) สร้างผลกำไรที่เติบโตอย่างมั่นคงตลอดด้วยอัตราการทำกำไรสุทธิ (Net Profit Margin) ราว 10-15% ต่อปี แต่ปี 65 นักวิเคราะห์คาดการณ์กำไรสุทธิจะเติบโตก้าวกระโดดที่ 10,500 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นถึง 25% จากปีก่อน ยิ่งในสถานการณ์ดอกเบี้ยขาขึ้นยิ่งส่งผลดี เนื่องจาก TLI มีพอร์ตเงินลงทุนในตราสารหนี้กว่า 4.3 แสนล้านบาทคิดเป็นกว่า 80 % ของสินทรัพย์ทั้งหมด สร้างผลตอบแทนที่มีในช่วงดอกเบี้ยขาขึ้นเต็มๆ ในปีนี้และปีหน้า

 

Q4 เข้าสู่ช่วง High Season

 

ไม่เพียงเท่านี้ช่วง ไตรมาส 4/65 ยังเป็นช่วง High Season ของธุรกิจประกันชีวิตจึงมีโอกาสที่จะมีเบี้ยประกันปีต่อเพิ่มเข้ามามากขึ้น โดยเฉพาะในส่วนกำไรจากการรับประกันชีวิต เพราะ TLI เน้นโยบายการขายผลิตภัณฑ์ที่มีมาร์จิ้น หรือ Value of New Business และตอบโจทย์ลูกค้าได้มากกว่า อย่างเช่น ประกันประเภท Unit Linked, ประกันประเภทชนิดมีปันผล (Participating Products) และสัญญาเพิ่มเติม (Riders) ที่ส่วนใหญ่เป็นประกันสุขภาพ  และที่สำคัญคือการมีเครือข่ายพันธมิตรที่หลากหลายเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้เหนือคู่แข่ง ซึ่งปีนี้ TLI ยังเน้นขายผ่าน Agency, ธนาคาร, Partnership และเพิ่มช่องทาง Digital มากขึ้นก็จะยิ่งช่วยให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ มากขึ้น

VONB Marginสูง

 

จึงสะท้อนออกมาที่เบี้ยประกันภัยรับปีแรกแบบคำนวณรายปี (Annual Premium Equivalent : APE) ณ งวด 9 เดือนอยู่ที่ 9,641 ล้านบาท เติบโต 26% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 64 และมีผลรวมกำไรที่คาดว่าจะได้รับตั้งแต่วันแรกถึงวันสิ้นสุดของกรมธรรม์ (Value of New Business : VONB) 5,151 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29% เมื่อเทียบกับช่วง 9 เดือนของปีก่อนหน้า ส่งผลให้ VONB Margin หรือกำไรจาก VONB เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน อยู่ที่ 53.4% ทำให้บริษัทฯ มีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 14.1%

 

มีจุดแข่งที่เหนือคู่แข่ง

ส่วนปี 66-67 คาดการณ์ว่าผลการดำเนินงานก็ยังเติบโตต่อเนื่องโดยเฉพาะกำไรสุทธิยังมีโอกาสเติบโตเฉลี่ย 13% ต่อปี จุดเด่นคือ ปัจจัยหนุนจากเบี้ยประกันรับสุทธิคาดเติบโตตามเศรษฐกิจ รวมถึงคาดว่ารายได้จากการลงทุนจะเติบโตจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น และขอย้ำอีกครั้งว่า การขายผ่านช่องทาง Agency ที่คู่แข่งต้องใช้เวลาลอกเลียนแบบและที่เหนือไปกว่านั้นคือเครือข่ายตัวแทนประกันชีวิตของ TLI ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ต่างจังหวัด มีโอกาสเติบโตมากกว่าพื้นที่กรุงเทพฯ อีกด้วย

 

ฐานะการเงินแข็งแกร่ง

นอกจากนี้ TLI ยังมีอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุน หรือ CAR Ratio อยู่ที่ 358% (ณ เดือนก.ย.65) สูงกว่าเกณฑ์ที่สำนักงาน คปภ.กำหนดอยู่ที่ 140% สะท้อนถึงสถานะเงินทุนที่แข็งแกร่ง

 

ผู้นำสร้างธุรกิจอย่างยั่งยืนตามหลัก ESG

TLI ได้ให้ความสำคัญในการสร้างความเข้มแข็งและยั่งยืนให้กับบริษัทฯ และสังคมไทยตามหลักแนวทาง ESG โดยแต่งตั้งคณะทำงานด้านการพัฒนาเพื่อความยั่งยืน หรือ SD Committee เพื่อส่งมอบคุณค่าแห่งความยั่งยืน ที่ประกอบไปด้วย 6 คุณค่าหลัก คือ ส่งมอบคุณค่าให้ลูกค้า ผ่านการออกแบบผลิตภัณฑ์และการบริการที่สามารถให้คนไทยทุกคนได้เข้าถึงการประกันชีวิต และพัฒนาคุณภาพชีวิตในทุกระดับทุกชุมชนของสังคมไทย, ส่งมอบคุณค่าให้กับพนักงานและตัวแทนประกันชีวิตของบริษัทฯ มุ่งมั่นเสริมสร้างบุคลากรให้เป็นทั้งคนเก่งและคนดี และสามารถส่งมอบความรู้ด้านประกันชีวิต ประกันสุขภาพ การวางแผนทางการเงินให้กับชุมชนในสังคม

 

ส่งมอบคุณค่าให้คู่ค้าและพันธมิตร โดยให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการคู่ค้าที่ครอบคลุมประเด็น ESG ในส่วนพันธมิตรให้ความสำคัญเรื่องของธรรมาภิบาล และการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงสร้างสรรค์นวัตกรรมผลิตภัณฑ์และบริการ เพื่อเป็นบริษัทประกันชีวิตที่คู่ค้าและพันธมิตรเลือก, ส่งมอบคุณค่าให้ผู้ถือหุ้นหรือนักลงทุน โดยส่งมอบผลตอบแทนการลงทุนที่ยั่งยืน และมีการจัดการบริหารความเสี่ยงที่ครอบคลุมประเด็น ESG

 

 ส่งมอบคุณค่าให้กับหน่วยงานกำกับดูแล เป็นองค์กรที่ดำเนินธุรกิจอย่างรัดกุม มีการบูรณาการด้านธรรมาภิบาล สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยปฏิบัติตามกฎระเบียบต่าง ๆ ให้ความสำคัญเรื่องการคุ้มครองผู้บริโภคและความปลอดภัยของข้อมูล หรือ PDPA และสุดท้ายคือ ส่งมอบคุณค่าของชีวิต คุณค่าแห่งความรัก และคุณค่าแห่งความเป็นมนุษย์ ซึ่งเป็นแก่นของธุรกิจประกันชีวิตให้แก่สังคมไทยและคนไทย โดยบริษัทฯ ดำเนินธุรกิจอย่างรับผิดชอบต่อสังคม พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตของสังคมให้แก่สังคมไทยและคนไทย

 

หากนักลงทุนที่สนใจเลือกลงทุนหุ้นที่ให้ทั้งผลตอบแทนที่ดีและยังคำนึงถึงสังคมไทยตามหลัก ESG แล้วละก็ต้องยกให้ TLI หุ้นที่น่าจะเด่นสะดุดตาใครหลายๆคนอย่างแน่นอน

@mitihoonwealth
https://lin.ee/cXAf0Dp