แสนสิริ เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่ อายุ 2 ปี 6 เดือน และ 4 ปี ชูดอกเบี้ย [4.00-4.55]% ต่อปี เริ่มต้นเพียง 1,000 บาท ส่งเสริมให้คนไทยเข้าถึงการลงทุนได้อย่างทั่วถึง

81

มิติหุ้น – บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่ หลังจากประสบความสำเร็จในการขายหุ้นกู้รุ่นก่อนหน้ามาโดยตลอด สะท้อนถึงความเชื่อมั่นและผลตอบรับที่ดีจากนักลงทุนรายย่อย รวมทั้งความแข็งแกร่งในธุรกิจอสังหาฯ จากการมองตลาดเร็วและพร้อมปรับตัวรองรับทุกสถานการณ์อยู่ตลอดเวลา โดยหุ้นกู้ที่จะเสนอขายครั้งนี้เป็นหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการเสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไป สำหรับหุ้นกู้ชุดที่ อายุ 2 ปี เดือน อัตราดอกเบี้ยระหว่าง [4.004.10]% ต่อปี และหุ้นกู้ชุดที่ อายุ 4 ปี อัตราดอกเบี้ยระหว่าง [4.454.55]% ต่อปี ผ่าน 10 สถาบันการเงิน ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย ธนาคารทหารไทยธนชาต บริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคินภัทร บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง และบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) หุ้นกู้ทั้ง 2 ชุดจ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้ สำหรับอัตราดอกเบี้ยที่แน่นอนจะประกาศให้ทราบในภายหลัง โดยหุ้นกู้และบริษัทได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือในระดับ “BBB+” แนวโน้มอันดับเครดิต “คงที่ (Stable)” จากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2566 และคาดว่าจะเสนอขายระหว่างวันที่1 – และ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2566 นี้ ด้วยเงินจองซื้อขั้นต่ำเพียง 1,000 บาท และทวีคูณครั้งละ 1,000 บาท เพื่อเป็นการตอกย้ำภาพลักษณ์ของบริษัทฯ ที่จับต้องง่าย และเป็นแบรนด์ “ที่ทุกคนเข้าถึงได้ ซึ่งไม่ใช่เพียงเฉพาะการพัฒนาผลิตภัณฑ์เท่านั้น ยังมองถึงความสำคัญในด้านการลงทุนที่ต้องทั่วถึงและเท่าเทียมกัน

สำหรับผลประกอบการไตรมาสแรกปี 2566 แสนสิริมีรายได้รวมอยู่ที่ 8,505 ล้านบาท โตขึ้น 63% จากไตรมาสเดียวกันของปีที่ผ่านมา จากรายได้จากการขายโครงการที่โดดเด่นในทุกกลุ่มที่อยู่อาศัย นำด้วยรายได้จากการขายคอนโดมิเนียม ที่ในไตรมาสนี้เติบโตสูงสุดถึง 217% หรือโกยรายได้ 2,717 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีรายได้จากการขายโครงการแนวราบ ทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮมและมิกซ์ โปรดักส์  โดยแชมป์รายได้จากโครงการบ้านเดี่ยว ได้แก่ โครงการนาราสิริ กรุงเทพกรีฑา ส่วนรายได้จากการขายโครงการทาวน์โฮม เติบโตขึ้นถึง 104% โดยเฉพาะความสำเร็จในลักซ์ชัวรี่ เรสซิเดนท์แนวคิดใหม่ “เดมี สาธุ 49” เป็นต้น นอกจากรายได้ที่โดดเด่นในทุกโปรดักส์แล้ว กำไรขั้นต้นจากการขายโครงการที่อยู่อาศัยยังคงสูงขึ้นเช่นเดียวกัน ประกอบกับในไตรมาสนี้ แสนสิริมีการบันทึกกำไรจากการขายกิจการโรงเรียนสาธิตพัฒนา และการเพิ่มขึ้นของส่วนแบ่งกำไรจากกิจการร่วมค้าและบริษัทร่วม ทำให้กำไรสุทธิในไตรมาสแรกของปี 2566 เติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด โดยแสนสิริมีกำไรสุทธิ 1,582 ล้านบาท เติบโตโดดเด่นขึ้นถึง 423% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน อัตรากำไรสุทธิสูงถึง 18.6% ของรายได้รวม ปรับเพิ่มขึ้นอย่างมากจากอัตรากำไรสุทธิที่ร้อยละ 5.8 ของรายได้รวมในไตรมาสแรกของปี 2565

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon